มิจฉาชีพสามารถนําหมายเลขหลังบัตรประชาชนไปทําอะไรได้บ้าง

หมายเลขหลังบัตรประชาชน: รหัสลับที่มิจฉาชีพหมายตา

หมายเลขหลังบัตรประชาชน อาจดูเหมือนเป็นเพียงตัวเลขชุดหนึ่งที่ไม่มีความสำคัญมากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือรหัสลับที่สามารถเปิดประตูสู่ความเสียหายทางการเงินอย่างมหาศาลได้ หากตกไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพ เพราะมันสามารถใช้ประกอบกับข้อมูลอื่นๆ ที่อาจได้มาจากการหลอกลวงหรือการเจาะระบบ เพื่อสร้างความเสียหายได้หลากหลายรูปแบบ มากกว่าที่เราคิด

นอกเหนือจากการนำไปเปิดบัญชีธนาคารปลอม สมัครสินเชื่อ หรือแอบอ้างเป็นตัวเราในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่หลายคนคุ้นเคย มิจฉาชีพยังสามารถนำหมายเลขหลังบัตรประชาชนไปใช้ในทางที่ซับซ้อนและยากแก่การตรวจสอบได้อีก เช่น:

• การสร้างเอกสารปลอม: หมายเลขหลังบัตรประชาชนสามารถใช้ในการสร้างเอกสารปลอม เช่น ใบขับขี่ปลอม ทะเบียนบ้านปลอม หรือเอกสารราชการอื่นๆ เพื่อใช้ในการก่ออาชญากรรมอื่นๆ ต่อไป เช่น การปลอมแปลงเอกสารเพื่อการยักยอกทรัพย์ หรือการรับรองบุคคลปลอมตัว

• การโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน: แม้จะไม่ใช่การโอนกรรมสิทธิ์ได้โดยตรง แต่มิจฉาชีพอาจใช้หมายเลขหลังบัตรประชาชนร่วมกับข้อมูลอื่นๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการขอโอนกรรมสิทธิ์ เช่น การเช่าซื้อรถยนต์ หรือการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยใช้เอกสารปลอมที่สร้างขึ้น

• การแอบอ้างเพื่อขอรับบริการ: มิจฉาชีพอาจใช้หมายเลขหลังบัตรประชาชนในการแอบอ้างเพื่อขอรับบริการต่างๆ เช่น การขอรับสินเชื่อ การขอรับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ หรือการขอรับบริการทางการแพทย์ โดยการปลอมแปลงเอกสารหรือข้อมูลอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการแอบอ้าง

• การสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียปลอม: แม้จะดูไม่ร้ายแรงเท่ากับการทุจริตทางการเงิน แต่บัญชีโซเชียลมีเดียปลอมที่ใช้ชื่อและข้อมูลส่วนตัวของเรา อาจถูกนำไปใช้ในการหลอกลวงผู้อื่น หรือสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของเราได้

การป้องกันตนเองจากภัยคุกคามเหล่านี้ จึงสำคัญอย่างยิ่ง เราควรหลีกเลี่ยงการเปิดเผยหมายเลขหลังบัตรประชาชนโดยไม่จำเป็น เก็บรักษาบัตรประชาชนไว้ในที่ปลอดภัย และตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงินของตนเองอยู่เป็นประจำ หากพบสิ่งผิดปกติ ควรแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที อย่ามองข้ามความสำคัญของหมายเลขเล็กๆ ชุดนี้ เพราะมันอาจเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่ความเสียหายครั้งใหญ่ได้

บทความนี้มุ่งเน้นให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความหวาดกลัว แต่เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อป้องกันตนเองจากมิจฉาชีพในยุคดิจิทัล