HR ยื่นภาษีอะไรบ้าง

2 การดู

แผนกบุคคลควรมีความรู้เกี่ยวกับแบบ ภ.ง.ด. 1 สำหรับการยื่นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และ ภ.พ. 20 สำหรับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ ควรเข้าใจขั้นตอนการจัดการเอกสารภาษีสำหรับพนักงานที่ลาออกกลางปี และการสรุปภาษี ณ ที่จ่ายประจำปี เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องและทันท่วงที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

HR ต้องรู้! เรื่องภาษีที่ต้องยื่นและจัดการ: คู่มือฉบับเข้าใจง่ายสำหรับแผนกบุคคล

ในโลกของการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (HR) บทบาทไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสรรหา คัดเลือก และดูแลสวัสดิการพนักงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดการเรื่องภาษีที่เกี่ยวข้องกับพนักงานและองค์กรอย่างถูกต้องและแม่นยำอีกด้วย การทำความเข้าใจและจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบและเสียค่าปรับที่ไม่จำเป็น

ดังนั้น HR จึงควรมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องภาษีที่ต้องยื่นและจัดการอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาษีที่เกี่ยวข้องกับพนักงานโดยตรง ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการปฏิบัติงานของแผนกบุคคล

ภาษีที่ HR ต้องรู้จักและจัดการ:

  • ภ.ง.ด. 1: ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (สำหรับเงินเดือนและค่าจ้าง)

    • นี่คือภาษีที่หักจากเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส และผลประโยชน์อื่นๆ ที่จ่ายให้กับพนักงาน
    • HR มีหน้าที่คำนวณภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายของพนักงานแต่ละคนตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
    • จัดทำและยื่นแบบ ภ.ง.ด. 1 เป็นรายเดือนภายในวันที่ 7 หรือ 15 ของเดือนถัดไป (ขึ้นอยู่กับวิธีการยื่น)
    • นำส่งภาษีที่หักไว้ให้กับกรมสรรพากร
    • จัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ให้กับพนักงานแต่ละคน
  • ภ.พ. 20: การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

    • แม้ว่าไม่ใช่ภาษีที่เกี่ยวข้องกับพนักงานโดยตรง แต่ HR ควรมีความเข้าใจในเรื่องนี้ เนื่องจากองค์กรที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
    • หากองค์กรอยู่ในระบบ VAT HR อาจมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • การจัดการภาษีเมื่อพนักงานลาออกกลางปี:

    • เมื่อพนักงานลาออกกลางปี HR ต้องดำเนินการสรุปยอดเงินได้และภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายของพนักงานคนนั้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ลาออก
    • ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ให้กับพนักงาน เพื่อให้พนักงานนำไปยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีได้
    • แจ้งการลาออกของพนักงานในระบบประกันสังคม
  • การสรุปภาษี ณ ที่จ่ายประจำปี:

    • HR ต้องสรุปยอดเงินได้และภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายของพนักงานแต่ละคนตลอดทั้งปี
    • จัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ให้กับพนักงานภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป เพื่อให้พนักงานนำไปยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี
    • ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 1ก. เพื่อสรุปข้อมูลการจ่ายเงินได้และภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายทั้งปีให้กับกรมสรรพากร
  • ภ.ง.ด. 91: การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (สำหรับพนักงาน)

    • แม้ว่าไม่ใช่หน้าที่หลักของ HR ในการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับพนักงาน แต่ HR ควรให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือแก่พนักงานเกี่ยวกับการยื่นภาษี
    • ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ ที่พนักงานมีสิทธิได้รับ เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนบุตร ค่าลดหย่อนประกันสังคม เป็นต้น

ความสำคัญของการจัดการภาษีอย่างถูกต้อง:

  • การปฏิบัติตามกฎหมาย: การจัดการภาษีอย่างถูกต้องและทันท่วงทีเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่องค์กรต้องปฏิบัติ หากละเลยหรือไม่ปฏิบัติตาม อาจถูกปรับหรือถูกดำเนินคดีได้
  • สร้างความน่าเชื่อถือ: การจัดการภาษีอย่างถูกต้องแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือขององค์กร
  • ลดความเสี่ยง: การจัดการภาษีอย่างถูกต้องช่วยลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบและเสียค่าปรับที่ไม่จำเป็น
  • สร้างความพึงพอใจแก่พนักงาน: การให้ข้อมูลและให้ความช่วยเหลือแก่พนักงานเกี่ยวกับการยื่นภาษี ช่วยสร้างความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร

สรุป:

การจัดการภาษีเป็นส่วนสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การที่ HR มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องภาษีที่เกี่ยวข้องกับพนักงานและองค์กรอย่างละเอียดถี่ถ้วน จะช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร

ดังนั้น HR ควรให้ความสำคัญกับการศึกษาและพัฒนาความรู้ความสามารถในเรื่องภาษีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร