กินมาม่ายังไงไม่ให้มีโซเดียม

0 การดู

ปรุงมาม่าแบบสุขภาพดีโดยล้างเส้นด้วยน้ำเดือดก่อนปรุง เพื่อลดโซเดียมส่วนเกิน ปรุงด้วยน้ำสะอาด เพิ่มผักสดหลากสี โปรตีนจากไข่หรือเนื้อไม่ติดมัน ใช้เครื่องปรุงน้อยลง ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ แทนน้ำซุป เลือกมาม่าที่มีเครื่องหมายโภชนาการ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

มาม่า…เมนูสิ้นคิดที่ไม่สิ้นใจ: เคล็ดลับกินมาม่าแบบไม่ “โซเดียมสูงปี๊ด” เพื่อสุขภาพที่ดี

มาม่า…อาหารยอดฮิตติดลมบนของคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ หรืออยากหาอะไรง่ายๆ ทาน มาม่าก็มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ เสมอ ด้วยรสชาติที่ถูกปาก ราคาประหยัด และความสะดวกสบายที่หาใครเทียบยาก แต่สิ่งที่มาพร้อมกับความอร่อยนั้นก็คือ ปริมาณโซเดียมที่สูงปรี๊ด ซึ่งเป็นภัยร้ายต่อสุขภาพในระยะยาว หากทานเป็นประจำ

หลายคนอาจคิดว่าการกินมาม่าให้ดีต่อสุขภาพเป็นไปไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วมีเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราเอร็ดอร่อยกับมาม่าได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องโซเดียมมากเกินไป มาดูกันเลย:

1. ล้างเส้น…เคล็ดลับกำจัดโซเดียม:

นี่คือเคล็ดลับสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม! ก่อนที่จะปรุงมาม่า ลองนำเส้นไปลวกในน้ำเดือดก่อนสัก 1-2 นาที แล้วเทน้ำทิ้ง วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณโซเดียมที่เคลือบอยู่บนเส้นได้พอสมควรเลยทีเดียว

2. ปรุงด้วยน้ำสะอาด ไม่ใช่น้ำเดิม:

หลังจากลวกเส้นแล้ว ให้ใช้น้ำสะอาดในการต้มหรือปรุงมาม่า ไม่ควรใช้น้ำที่ลวกเส้นมาปรุงต่อ เพราะน้ำที่ลวกเส้นนั้นจะมีโซเดียมที่ละลายออกมาอยู่

3. เพิ่มสีสันและคุณค่าทางอาหารด้วยผักสด:

มาม่าอย่างเดียวอาจจะขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ลองเพิ่มผักสดหลากสีสัน เช่น ผักกาดขาว แครอท ต้นหอม หรือเห็ดต่างๆ ลงไป จะช่วยเพิ่มวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ทำให้มาม่าจานนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น

4. โปรตีน…ตัวช่วยสร้างความอิ่มท้อง:

เพิ่มโปรตีนเข้าไปในมาม่าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นไข่ต้ม ไข่คน เนื้อไก่ไม่ติดมัน หมูสับ หรือเต้าหู้ จะช่วยให้คุณอิ่มท้องนานขึ้น และได้รับโปรตีนที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย

5. เครื่องปรุง…ใส่แต่น้อยอร่อยเท่าเดิม:

เครื่องปรุงที่มาในซองมาม่าคือแหล่งโซเดียมตัวร้าย ลองใส่เครื่องปรุงให้น้อยลงกว่าเดิม หรืออาจจะผสมกับเครื่องปรุงอื่นๆ ที่มีโซเดียมต่ำกว่า เช่น น้ำปลาลดโซเดียม ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม หรือพริกไทย

6. น้ำซุป…ดื่มน้อยๆ หรือไม่ดื่มเลย:

น้ำซุปมาม่าคือแหล่งรวมโซเดียมเข้มข้น หากอยากควบคุมปริมาณโซเดียม ควรดื่มน้ำซุปให้น้อยที่สุด หรืออาจจะไม่ดื่มเลยก็ได้ แล้วดื่มน้ำเปล่าตามมากๆ เพื่อช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย

7. เลือกมาม่าที่มีสัญลักษณ์ทางโภชนาการ:

ปัจจุบันมีมาม่าหลายยี่ห้อที่ได้รับการปรับปรุงสูตรให้มีปริมาณโซเดียมลดลง ลองสังเกตสัญลักษณ์ทางโภชนาการบนซองก่อนซื้อ เพื่อเลือกมาม่าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น

8. กินแต่พอดี…ไม่กินบ่อยเกินไป:

แม้ว่าจะมีเคล็ดลับต่างๆ ที่ช่วยลดปริมาณโซเดียมในมาม่าได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการกินแต่พอดี ไม่กินบ่อยเกินไป ควรเลือกทานอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า

สรุป:

การกินมาม่าให้ดีต่อสุขภาพนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการปรุงและเลือกวัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น เท่านี้คุณก็สามารถเอร็ดอร่อยกับมาม่าได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องโซเดียมมากเกินไป อย่าลืมว่าสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ