ตัดแต่งกิ่งมะม่วงแล้วใส่ปุ๋ยอะไร

5 การดู

หลังตัดแต่งกิ่งมะม่วง บำรุงต้นด้วยปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือ 20-10-10 อัตรา 1-2 กก./ต้น ควบคู่ปุ๋ยอินทรีย์ 10-20 กก./ต้น หว่านรอบทรงพุ่ม พรวนดินกลบ ทำซ้ำเมื่อมะม่วงแตกใบชุดใหม่ เพื่อฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมสำหรับการออกดอกในฤดูกาลถัดไป

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

มะม่วงงามหลังการตัดแต่ง: เคล็ดลับการใส่ปุ๋ยเพื่อผลผลิตที่เหนือกว่า

การตัดแต่งกิ่งมะม่วงเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลรักษาต้นไม้ผลชนิดนี้ เพื่อให้ได้ทรงพุ่มที่โปร่ง แสงแดดส่องถึงทั่วถึง ลดความเสี่ยงต่อโรคและแมลง และที่สำคัญคือกระตุ้นการออกดอกติดผลที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม การตัดแต่งกิ่งก็เหมือนกับการผ่าตัดเล็กๆ ที่ทำให้ต้นมะม่วงสูญเสียพลังงานไป การใส่ปุ๋ยที่เหมาะสมหลังการตัดแต่งจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของต้น และเตรียมความพร้อมสำหรับการออกดอกในฤดูกาลถัดไป

ทำไมต้องใส่ปุ๋ยหลังตัดแต่งกิ่ง?

  • ชดเชยพลังงานที่สูญเสีย: การตัดกิ่งทำให้ต้นต้องใช้พลังงานในการสมานแผลและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ การใส่ปุ๋ยจะช่วยเติมเต็มพลังงานที่ขาดหายไป
  • กระตุ้นการแตกใบใหม่: ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงจะช่วยส่งเสริมการแตกใบอ่อน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสังเคราะห์แสงและสร้างอาหารให้กับต้น
  • เสริมสร้างระบบราก: ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสจะช่วยบำรุงรากให้แข็งแรง ทำให้ต้นสามารถดูดซึมธาตุอาหารและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เตรียมพร้อมสำหรับการออกดอก: การใส่ปุ๋ยที่สมดุล จะช่วยสะสมอาหารและเตรียมความพร้อมของต้นสำหรับการออกดอกในอนาคต

สูตรปุ๋ยที่แนะนำและวิธีการใส่

นอกเหนือจากสูตรปุ๋ยเสมอที่นิยมใช้กันทั่วไป เช่น 15-15-15 หรือ 20-10-10 ที่คุณได้กล่าวถึงแล้ว เราขอแนะนำเพิ่มเติมถึงแนวทางการพิจารณาเลือกสูตรปุ๋ยให้เหมาะสมกับช่วงเวลาและสภาพต้นดังนี้:

  • ช่วงฟื้นฟูหลังตัดแต่ง (1-2 สัปดาห์แรก): เน้นปุ๋ยสูตรสูงในธาตุอาหารหลัก โดยเฉพาะไนโตรเจน (N) เพื่อกระตุ้นการแตกใบและสร้างการเจริญเติบโตของลำต้น อาจใช้สูตร 25-7-7 หรือ 30-10-10 ในอัตราส่วนที่ระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์
  • ช่วงเตรียมความพร้อมสำหรับการออกดอก (2-3 เดือนก่อนฤดูดอก): ลดปริมาณไนโตรเจน และเพิ่มฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) เพื่อส่งเสริมการสร้างตาดอก อาจใช้สูตร 12-24-12 หรือ 8-24-24
  • ปุ๋ยอินทรีย์: หัวใจสำคัญของการบำรุงระยะยาว: การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยพืชสด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะปุ๋ยอินทรีย์จะช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์ควบคู่กับปุ๋ยเคมีในอัตราส่วนที่เหมาะสม (10-20 กก./ต้น) โดยหว่านรอบทรงพุ่มแล้วพรวนดินกลบ

เทคนิคการใส่ปุ๋ยที่ถูกต้อง

  • หว่านปุ๋ยรอบทรงพุ่ม: ระบบรากของมะม่วงส่วนใหญ่อยู่บริเวณรอบทรงพุ่ม การหว่านปุ๋ยบริเวณนี้จะช่วยให้รากสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้เต็มที่
  • พรวนดินกลบ: การพรวนดินกลบปุ๋ยจะช่วยป้องกันการสูญเสียปุ๋ยจากการระเหยหรือถูกชะล้าง และยังช่วยให้ปุ๋ยสัมผัสกับดินโดยตรง ทำให้พืชดูดซึมได้ง่ายขึ้น
  • รดน้ำตามทันที: หลังจากการใส่ปุ๋ย ควรรดน้ำตามทันที เพื่อให้ปุ๋ยละลายและซึมลงสู่ดิน
  • สังเกตอาการของต้น: หมั่นสังเกตอาการของต้นมะม่วง หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ใบเหลือง ใบไหม้ หรือการเจริญเติบโตช้า ควรรีบตรวจสอบและปรับเปลี่ยนสูตรปุ๋ยหรือวิธีการใส่ให้เหมาะสม

ข้อควรระวัง

  • อย่าใส่ปุ๋ยใกล้โคนต้น: การใส่ปุ๋ยใกล้โคนต้นมากเกินไป อาจทำให้เกิดการสะสมของเกลือและเป็นอันตรายต่อราก
  • อย่าใส่ปุ๋ยมากเกินไป: การใส่ปุ๋ยมากเกินไปอาจทำให้ต้นเกิดอาการ “ปุ๋ยเกิน” ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตและการออกดอกติดผล
  • อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด: ก่อนการใช้ปุ๋ยทุกชนิด ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราส่วนการใช้ วิธีการใช้ และข้อควรระวังต่างๆ

การใส่ปุ๋ยที่เหมาะสมหลังการตัดแต่งกิ่งมะม่วง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อให้ได้ต้นมะม่วงที่แข็งแรง สมบูรณ์ พร้อมสำหรับการออกดอกติดผลที่ดกและมีคุณภาพ หากทำตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ คุณจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมะม่วงที่น่าภาคภูมิใจได้อย่างแน่นอน