วิตามินซีผสมกับอะไรได้บ้าง

1 การดู

วิตามินซีเสริมประสิทธิภาพได้หลากหลาย! ลองทานคู่กับซิงค์เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน หรือทานร่วมกับไบโอฟลาโวนอยด์เพื่อเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การทานวิตามินซีพร้อมสารสกัดจากเมล็ดองุ่นยังช่วยต้านอนุมูลอิสระและบำรุงผิวได้อีกด้วย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วิตามินซี: คู่หูเสริมประสิทธิภาพ สู่สุขภาพที่แข็งแรง

วิตามินซี เป็นวิตามินที่ร่างกายต้องการในทุกๆ วัน มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน สร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แต่รู้หรือไม่ว่า การรับประทานวิตามินซีร่วมกับสารอาหารบางชนิด สามารถเสริมประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น วันนี้เรามาสำรวจ “คู่หู” ของวิตามินซี ที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดกัน

1. ซิงค์ (Zinc): เสริมเกราะป้องกันภูมิคุ้มกัน

วิตามินซีและซิงค์ เปรียบเสมือนคู่หูดูโอ้ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่ง วิตามินซีช่วยในการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ส่วนซิงค์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันเช่นกัน การรับประทานวิตามินซีร่วมกับซิงค์ จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันโรคหวัด และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

2. ไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids): เพิ่มพลังดูดซึม

ไบโอฟลาโวนอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในผักและผลไม้ เช่น ส้ม เกรปฟรุต และมะนาว ไบโอฟลาโวนอยด์ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีในร่างกาย และเสริมฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ การรับประทานวิตามินซีร่วมกับไบโอฟลาโวนอยด์ จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากวิตามินซีได้อย่างเต็มที่

3. สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract): บำรุงผิวพรรณ ต้านอนุมูลอิสระ

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โอลิโกเมอริก โปรแอนโธไซยานิดิน (OPCs) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและวิตามินอี การรับประทานวิตามินซีร่วมกับสารสกัดจากเมล็ดองุ่น จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ชะลอวัย และบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรง เปล่งปลั่ง

4. เหล็ก (Iron): เสริมสร้างการดูดซึมธาตุเหล็ก

วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กชนิด non-heme iron ซึ่งพบได้ในพืช การรับประทานวิตามินซีร่วมกับอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักใบเขียว จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น ป้องกันภาวะโลหิตจาง

อย่างไรก็ตาม ก่อนการรับประทานวิตามินซีร่วมกับสารอาหารอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาอื่นๆอยู่ เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา และเพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล