การวิจัยทางการศึกษามีกี่ประเภท

8 การดู

การจำแนกประเภทการวิจัยทางการศึกษาสามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การวิจัยเชิงปริมาณเน้นการวัดและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงตัวเลข ขณะที่การวิจัยเชิงคุณภาพมุ่งเน้นการทำความเข้าใจความหมายและประสบการณ์ อีกวิธีหนึ่งคือการแบ่งตามวัตถุประสงค์ เช่น การวิจัยเพื่อสำรวจ การวิจัยเพื่ออธิบาย และการวิจัยเพื่อทดสอบสมมติฐาน แต่ละวิธีมีจุดมุ่งหมายและวิธีการที่แตกต่างกัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ส่องโลกการวิจัยทางการศึกษา: ไม่อิงแค่เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

การวิจัยทางการศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงระบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ มักถูกแบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ที่เน้นการเก็บข้อมูลเชิงตัวเลข และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ที่เน้นการทำความเข้าใจปรากฏการณ์เชิงลึก อย่างไรก็ตาม การจำแนกประเภทการวิจัยทางการศึกษามิได้จำกัดอยู่เพียงสองประเภทนี้เท่านั้น แต่สามารถจำแนกได้หลากหลายมิติ โดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์ วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล และลักษณะของข้อมูลที่ได้ ซึ่งการผสมผสานวิธีการวิจัยที่หลากหลาย (Mixed Methods Research) ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

มองข้ามกรอบเดิม: จำแนกตามวัตถุประสงค์

นอกเหนือจากการแบ่งตามลักษณะของข้อมูล การจำแนกประเภทการวิจัยทางการศึกษาตามวัตถุประสงค์ถือเป็นอีกมุมมองที่น่าสนใจ โดยสามารถแบ่งได้เป็น เช่น

  • การวิจัยแบบสำรวจ (Exploratory Research): มุ่งเน้นการสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับประเด็นที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพื่อสร้างความเข้าใจพื้นฐาน กำหนดขอบเขตของปัญหา และสร้างสมมติฐานสำหรับการวิจัยในขั้นต่อไป มักใช้กับหัวข้อวิจัยใหม่ๆ หรือปรากฏการณ์ที่ซับซ้อน ตัวอย่างเช่น การสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์รูปแบบใหม่

  • การวิจัยแบบอธิบาย (Descriptive Research): มุ่งเน้นการบรรยายลักษณะของปรากฏการณ์หรือสถานการณ์อย่างละเอียด เช่น การศึกษาพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน การสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับรายได้ของครอบครัวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยไม่ได้มุ่งเน้นการหาสาเหตุ ตัวอย่างเช่น การศึกษาสถิติการเข้าเรียนของนักศึกษาในแต่ละคณะ

  • การวิจัยแบบอธิบายความสัมพันธ์ (Correlational Research): ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสองตัวขึ้นไป เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างชั่วโมงการนอนหลับกับผลการเรียนของนักเรียน โดยไม่ได้มุ่งเน้นการหาความเป็นเหตุเป็นผล แต่เพื่อดูแนวโน้มของความสัมพันธ์

  • การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research): มุ่งเน้นการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างตัวแปร โดยควบคุมตัวแปรต่างๆ เพื่อดูอิทธิพลของตัวแปรอิสระที่มีต่อตัวแปรตาม ตัวอย่างเช่น การศึกษาประสิทธิผลของเทคนิคการสอนแบบใหม่ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

  • การวิจัยแบบประเมิน (Evaluation Research): มุ่งเน้นการประเมินประสิทธิผลของโครงการ นโยบาย หรือกิจกรรมต่างๆ ทางการศึกษา ตัวอย่างเช่น การประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการพัฒนาคุณภาพครู

การเลือกประเภทการวิจัยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และคำถามการวิจัย โดยนักวิจัยควรพิจารณาถึงข้อจำกัดและทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อให้ได้ผลการวิจัยที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ และมีประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาอย่างแท้จริง.