การศึกษาตาม พรบ มีกี่รูปแบบ

0 การดู

การศึกษาตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 15 แบ่งเป็นสามรูปแบบหลัก ได้แก่ การศึกษาในระบบที่เน้นหลักสูตรมาตรฐาน, การศึกษานอกระบบที่ปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะกลุ่ม, และการศึกษาตามอัธยาศัยที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจและความสามารถของผู้เรียนเป็นสำคัญ มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพรอบด้านอย่างยั่งยืน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

การศึกษา 3 รูปแบบ ตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ: เส้นทางสู่การเรียนรู้ที่หลากหลาย

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กำหนดรูปแบบการศึกษาไว้อย่างชัดเจน เพื่อรองรับความต้องการและศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ซึ่งทำงานประสานกันเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต แต่ละรูปแบบมีลักษณะเฉพาะ จุดเด่น และกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. การศึกษาในระบบ (Formal Education): เป็นรูปแบบการศึกษาที่คุ้นเคยกันมากที่สุด มีโครงสร้างหลักสูตรที่เป็นมาตรฐาน มีการวัดผลและประเมินผลอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ระดับปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษา จนถึงอุดมศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลาง ให้มีความรู้ ทักษะ และคุณธรรม พร้อมที่จะเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ

  • จุดเด่น: หลักสูตรมาตรฐาน มีคุณวุฒิการศึกษาที่ได้รับการยอมรับ มีระบบการเรียนการสอนที่ชัดเจน มีโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
  • ตัวอย่าง: โรงเรียน มหาวิทยาลัย วิทยาลัย

2. การศึกษานอกระบบ (Non-formal Education): เป็นการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย เช่น การฝึกอบรมอาชีพ การศึกษาเพื่อพัฒนาตนเอง การเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเนื้อหาและระยะเวลาในการเรียนจะยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละกลุ่ม

  • จุดเด่น: เน้นการปฏิบัติ ตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่ม มีความยืดหยุ่นสูง สามารถนำไปประกอบอาชีพได้
  • ตัวอย่าง: ศูนย์ฝึกอาชีพ หลักสูตรอบรมระยะสั้น โครงการพัฒนาชุมชน

3. การศึกษาตามอัธยาศัย (Informal Education): เป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ การค้นคว้า และการเรียนรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคล ไม่มีหลักสูตรที่ตายตัว และไม่มีการวัดผลประเมินผลอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

  • จุดเด่น: ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง พัฒนาตามความสนใจ สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา
  • ตัวอย่าง: การอ่านหนังสือ การท่องเที่ยว การเรียนรู้จากสื่อต่างๆ การเข้าร่วมกิจกรรมในชุมชน

ทั้งสามรูปแบบการศึกษานี้มีความสำคัญและเชื่อมโยงกัน เสริมสร้างซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกคนอย่างรอบด้าน และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน. การเลือกเรียนในแต่ละรูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการ เป้าหมาย และบริบทของผู้เรียนแต่ละคน.