การสอนแบบ 2W3P คืออะไร

0 การดู

2W3P คือรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการ 5 ขั้นตอน: เริ่มต้นด้วยการทบทวนความรู้เดิม (Warm up) นำเสนอเนื้อหาใหม่ (Presentation) ฝึกปฏิบัติโดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Practice) ประยุกต์ใช้ความรู้ (Production) และสรุปบทเรียน (Wrap up) ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมและนำไปใช้ได้จริง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

2W3P: กุญแจสู่การเรียนรู้ที่ Active และนำไปใช้ได้จริง

ในโลกการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแสวงหารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและสามารถตอบโจทย์ผู้เรียนในยุคปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2W3P ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยโครงสร้างที่เน้นกระบวนการและส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ทำให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ใหม่เข้ากับประสบการณ์เดิม และนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในสถานการณ์ต่างๆ

2W3P คืออะไร? ชื่อนี้เป็นตัวแทนของ 5 ขั้นตอนหลักที่ประกอบกันเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ครบวงจร ได้แก่:

  • Warm up (W): การเริ่มต้นบทเรียนด้วยกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นความสนใจและทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียน การทบทวนนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นการทดสอบความรู้ แต่เป็นการดึงเอาประสบการณ์และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใหม่ขึ้นมา เพื่อให้ผู้เรียนพร้อมที่จะเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับสิ่งที่พวกเขารู้แล้ว
  • Presentation (W): การนำเสนอเนื้อหาใหม่ที่ชัดเจน กระชับ และน่าสนใจ การนำเสนออาจทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยาย การใช้สื่อมัลติมีเดีย การสาธิต หรือการยกตัวอย่างที่เข้าใจง่าย หัวใจสำคัญคือการทำให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาหลักได้อย่างถูกต้อง
  • Practice (P): การฝึกปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความชำนาญ จุดเด่นของขั้นตอนนี้คือการเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้สนับสนุนและให้คำแนะนำมากกว่าการชี้นำ ผู้เรียนจะได้ลงมือทำจริง แก้ปัญหา และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตนเอง
  • Production (P): การประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปสู่สถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลอง ขั้นตอนนี้เป็นการท้าทายให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ และนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Wrap up (P): การสรุปบทเรียนและประเมินผลการเรียนรู้ การสรุปช่วยให้ผู้เรียนทบทวนเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ไป และตระหนักถึงสิ่งที่ตนเองได้เรียนรู้ ส่วนการประเมินผลจะช่วยให้ผู้สอนทราบถึงความเข้าใจของผู้เรียน และสามารถปรับปรุงการสอนในครั้งต่อไป

ทำไม 2W3P ถึงน่าสนใจ?

รูปแบบ 2W3P มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการจัดการเรียนรู้:

  • ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม: ทุกขั้นตอนของ 2W3P เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ไม่ว่าจะเป็นการทบทวนความรู้เดิม การฝึกปฏิบัติ หรือการประยุกต์ใช้ความรู้
  • เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง: ผู้เรียนมีบทบาทสำคัญในการสร้างความรู้ของตนเอง ผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้สนับสนุนและให้คำแนะนำ
  • เชื่อมโยงความรู้ใหม่กับประสบการณ์เดิม: การเริ่มต้นด้วย Warm up ช่วยให้ผู้เรียนเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับสิ่งที่พวกเขารู้แล้ว ทำให้การเรียนรู้มีความหมายและยั่งยืนยิ่งขึ้น
  • ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา: ขั้นตอน Practice และ Production ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสร้างสรรค์
  • นำไปใช้ได้จริง: การประยุกต์ใช้ความรู้ในขั้นตอน Production ช่วยให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าและความสำคัญของสิ่งที่ได้เรียนรู้ และสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

ข้อควรคำนึงในการนำ 2W3P ไปใช้

แม้ว่า 2W3P จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อควรคำนึงในการนำไปใช้เช่นกัน:

  • การวางแผน: ผู้สอนต้องวางแผนการสอนอย่างรอบคอบ เพื่อให้แต่ละขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
  • การเตรียมสื่อการสอน: ผู้สอนต้องเตรียมสื่อการสอนที่เหมาะสมและน่าสนใจ เพื่อกระตุ้นความสนใจและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน
  • การให้คำแนะนำ: ผู้สอนต้องให้คำแนะนำและสนับสนุนผู้เรียนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในขั้นตอน Practice และ Production
  • การปรับปรุง: ผู้สอนควรประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอ และปรับปรุงการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของผู้เรียน

สรุป

2W3P เป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการและส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ด้วยโครงสร้างที่ครบวงจรและเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ทำให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ใหม่เข้ากับประสบการณ์เดิม และนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในสถานการณ์ต่างๆ หากนำไปใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 2W3P จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสรรค์การเรียนรู้ที่ Active และมีประสิทธิภาพ