คะแนนขั้นต่ำ TGAT คิดยังไง

คะแนนขั้นต่ำ TGAT: วิธีคำนวณและความสำคัญ

การทดสอบความถนัดทั่วไป (TGAT) เป็นการทดสอบที่สำคัญสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา คะแนน TGAT จะใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาการรับเข้าเรียนของนักเรียนในแต่ละคณะ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักเรียนจะต้องทำคะแนน TGAT ให้ได้ตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่แต่ละคณะกำหนด

วิธีคำนวณคะแนนขั้นต่ำ TGAT

คะแนนขั้นต่ำ TGAT จะแตกต่างกันไปในแต่ละคณะ นักเรียนสามารถตรวจสอบคะแนนขั้นต่ำได้จากเว็บไซต์ของแต่ละมหาวิทยาลัย โดยทั่วไปแล้ว คณะจะคำนวณคะแนนขั้นต่ำโดยใช้สูตรต่อไปนี้:

คะแนนขั้นต่ำ TGAT = (คะแนนเต็มของทุกวิชา TGAT + คะแนนเต็มของทุกวิชา A-Level ที่คณะกำหนด) x เปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำที่คณะประกาศ / 100

ตัวอย่างเช่น หากคณะกำหนดให้ต้องใช้คะแนน TGAT 3 วิชา (คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย) และคะแนน A-Level 2 วิชา (คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์) โดยคะแนนเต็มของแต่ละวิชา TGAT คือ 100 คะแนน คะแนนเต็มของแต่ละวิชา A-Level คือ 200 คะแนน และเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำที่คณะประกาศคือ 70%

คะแนนขั้นต่ำ TGAT = (300 + 400) x 70 / 100 = 490 คะแนน

ความสำคัญของคะแนนขั้นต่ำ TGAT

คะแนน TGAT ขั้นต่ำมีความสำคัญเพราะเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาการรับเข้าเรียนของนักเรียน นั่นหมายความว่า หากนักเรียนทำคะแนน TGAT ต่ำกว่าเกณฑ์ที่คณะกำหนด นักเรียนก็จะไม่มีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาเข้าเรียนในคณะนั้นๆ

นอกจากนี้ คะแนน TGAT ยังเป็นตัวบ่งชี้ความสามารถและศักยภาพทางวิชาการของนักเรียนอีกด้วย คะแนน TGAT ที่สูงแสดงว่านักเรียนมีความรู้และความเข้าใจในเนื้อหาวิชาที่ทดสอบเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะมองหาในตัวผู้สมัคร

ดังนั้น นักเรียนจึงควรเตรียมตัวสอบ TGAT อย่างเต็มที่เพื่อให้ได้คะแนนที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการพิจารณาเข้าเรียนในคณะที่ตนเองต้องการ