คะแนน TCAS คำนวณยังไง

2 การดู

ระบบการคำนวณคะแนน TCAS ใหม่ใช้หลักการถ่วงน้ำหนักแบบปรับปรุง คะแนนรวมจะคำนวณจากผลรวมของคะแนนแต่ละส่วน โดยแต่ละส่วนจะมีน้ำหนักแตกต่างกันตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด เช่น วิชา A น้ำหนัก 40% วิชา B น้ำหนัก 60% ระบบนี้เน้นความยืดหยุ่นให้มหาวิทยาลัยออกแบบเกณฑ์ได้เอง จึงไม่มีสูตรตายตัว แต่ยึดหลักการถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนที่กำหนด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คะแนน TCAS คำนวณอย่างไร: ความยืดหยุ่นที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังตัวเลข

ระบบ TCAS เป็นระบบรับสมัครเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่คุ้นเคยสำหรับนักเรียนไทย แต่ความเข้าใจในกลไกการคำนวณคะแนนนั้น อาจไม่ชัดเจนสำหรับหลายคน บทความนี้จะอธิบายกระบวนการคำนวณคะแนน TCAS โดยเน้นถึงความยืดหยุ่นและความแตกต่างที่สำคัญ ซึ่งทำให้ไม่มี “สูตรสำเร็จ” เดียวสำหรับทุกมหาวิทยาลัย

แตกต่างจากระบบเก่าที่อาจมีสูตรคำนวณตายตัว TCAS ใหม่ใช้หลักการ ถ่วงน้ำหนัก (Weighted Average) ซึ่งหมายความว่า คะแนนจากแต่ละส่วนที่ใช้ในการสมัคร ไม่ว่าจะเป็นผลการเรียน (GPAX), คะแนนสอบ GAT/PAT, คะแนนสอบวิชาเฉพาะ หรือผลงานอื่นๆ จะมีน้ำหนักแตกต่างกันไปตามที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด

ลองยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งกำหนดเกณฑ์การรับสมัครดังนี้:

  • GPAX: น้ำหนัก 30%
  • คะแนน GAT: น้ำหนัก 20%
  • คะแนน PAT1: น้ำหนัก 50%

สมมติว่านักเรียนคนหนึ่งมีคะแนนดังนี้:

  • GPAX: 3.50
  • คะแนน GAT: 150
  • คะแนน PAT1: 200

การคำนวณคะแนน TCAS สำหรับนักเรียนคนนี้จะทำดังนี้:

  1. คำนวณคะแนนถ่วงน้ำหนักของแต่ละส่วน:

    • GPAX: 3.50 * 30% = 1.05
    • คะแนน GAT: 150 * 20% = 30
    • คะแนน PAT1: 200 * 50% = 100
  2. นำคะแนนถ่วงน้ำหนักของแต่ละส่วนมารวมกัน: 1.05 + 30 + 100 = 131.05

ดังนั้น คะแนน TCAS สำหรับนักเรียนคนนี้ ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด คือ 131.05

สิ่งที่สำคัญคือ น้ำหนักของแต่ละส่วนนั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละมหาวิทยาลัยและคณะที่สมัคร ไม่มีสูตรคำนวณตายตัว นักเรียนจึงควรตรวจสอบเกณฑ์การรับสมัครของแต่ละมหาวิทยาลัยและคณะที่ตนเองสนใจอย่างละเอียด ก่อนที่จะวางแผนการเรียนและการเตรียมตัวสอบ

นอกจากนี้ บางมหาวิทยาลัยอาจมีการเพิ่มเกณฑ์อื่นๆ เช่น คะแนนสัมภาษณ์ ผลงานพิเศษ หรือกิจกรรมต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณคะแนน ซึ่งจะยิ่งทำให้กระบวนการคำนวณมีความซับซ้อนและแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบัน

สรุปได้ว่า การคำนวณคะแนน TCAS ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ความยืดหยุ่นของระบบที่อนุญาตให้มหาวิทยาลัยกำหนดน้ำหนักของแต่ละส่วนได้เอง ทำให้จำเป็นต้องศึกษาเกณฑ์การรับสมัครของแต่ละมหาวิทยาลัยอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อวางแผนการเตรียมตัวให้ตรงจุดและเพิ่มโอกาสในการเข้าศึกษาต่อในคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการ