ตารางคะแนน CEFR มีอะไรบ้าง

ไขความลับตารางคะแนน CEFR: คู่มือฉบับสมบูรณ์สู่ระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ

คุณเคยสงสัยไหมว่าการวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณนั้นมีมาตรฐานอะไร? แล้ว CEFR ที่ใครๆ ก็พูดถึงคืออะไรกันแน่? บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับตารางคะแนน CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้วัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ ทั่วโลก โดยจะอธิบายถึงระดับต่างๆ และความสามารถที่ผู้เรียนควรมีในแต่ละระดับ เพื่อให้คุณสามารถประเมินตนเองและวางแผนพัฒนาภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

CEFR คืออะไร?

CEFR คือกรอบอ้างอิงร่วมกันของยุโรปสำหรับภาษา (Common European Framework of Reference for Languages) เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดยสภายุโรปเพื่อกำหนดระดับความสามารถทางภาษาต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ:

• สร้างมาตรฐานการวัด: ทำให้การวัดระดับความสามารถทางภาษาเป็นไปอย่างยุติธรรมและเปรียบเทียบได้ในระดับนานาชาติ
• ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษา: ช่วยให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถกำหนดเป้าหมายและวางแผนการเรียนรู้ได้อย่างชัดเจน
• อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยน: ช่วยให้สถาบันการศึกษาและองค์กรต่างๆ สามารถประเมินและรับรองความสามารถทางภาษาของผู้สมัครได้อย่างถูกต้อง

ตารางคะแนน CEFR: ระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ

CEFR แบ่งระดับความสามารถทางภาษาออกเป็น 6 ระดับหลัก ได้แก่ A1, A2, B1, B2, C1 และ C2 โดยแต่ละระดับจะอธิบายถึงความสามารถในการฟัง พูด อ่าน และเขียนที่ผู้เรียนควรมี:

ระดับ A: ผู้ใช้ภาษาพื้นฐาน (Basic User)

• A1 (ระดับเริ่มต้น): สามารถเข้าใจและใช้สำนวนง่ายๆ ที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน เช่น การทักทาย การแนะนำตัวเอง การสั่งอาหาร สามารถถามและตอบคำถามง่ายๆ ได้ หากคู่สนทนาพูดช้าและชัดเจน
  • ตัวอย่างความสามารถ: สามารถแนะนำตัวเองและผู้อื่นได้, สามารถขอและให้ข้อมูลส่วนตัวได้ (เช่น ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์), สามารถเข้าใจป้ายประกาศและป้ายบอกทางง่ายๆ ได้
• A2 (ระดับพื้นฐาน): สามารถเข้าใจประโยคและสำนวนที่ใช้บ่อยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น ครอบครัว การซื้อของ การทำงาน สามารถสื่อสารในสถานการณ์ที่ต้องการข้อมูลโดยตรงและคุ้นเคย
  • ตัวอย่างความสามารถ: สามารถอธิบายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัวได้, สามารถซื้อของและสั่งอาหารได้, สามารถให้คำแนะนำง่ายๆ เกี่ยวกับการเดินทางได้

ระดับ B: ผู้ใช้ภาษาที่เป็นอิสระ (Independent User)

• B1 (ระดับกลาง): สามารถเข้าใจประเด็นหลักของบทสนทนาหรือข้อความที่เป็นเรื่องคุ้นเคย เช่น งาน โรงเรียน เวลาว่าง สามารถจัดการกับสถานการณ์ส่วนใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษได้ สามารถเขียนข้อความง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องที่คุ้นเคยหรือน่าสนใจ
  • ตัวอย่างความสามารถ: สามารถเขียนจดหมายหรืออีเมลส่วนตัวได้, สามารถอธิบายแผนการเดินทางหรือกิจกรรมต่างๆ ได้, สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่คุ้นเคยได้
• B2 (ระดับกลางสูง): สามารถเข้าใจประเด็นหลักของบทสนทนาหรือข้อความที่ซับซ้อนกว่า เช่น ข่าวสาร การอภิปราย สามารถโต้ตอบกับเจ้าของภาษาได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติ สามารถเขียนข้อความที่ชัดเจนและมีรายละเอียดเกี่ยวกับหัวข้อที่หลากหลาย
  • ตัวอย่างความสามารถ: สามารถเขียนรายงานหรือบทความเกี่ยวกับหัวข้อที่หลากหลายได้, สามารถเข้าร่วมการประชุมหรือการอภิปรายได้, สามารถเข้าใจภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ส่วนใหญ่ได้

ระดับ C: ผู้ใช้ภาษาคล่องแคล่ว (Proficient User)

• C1 (ระดับสูง): สามารถเข้าใจบทสนทนาหรือข้อความที่ซับซ้อนและยาวๆ ได้ สามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติในหลากหลายสถานการณ์ สามารถเขียนข้อความที่ชัดเจน มีโครงสร้างดี และแสดงความคิดเห็นได้อย่างละเอียด
  • ตัวอย่างความสามารถ: สามารถเขียนรายงานวิชาการหรือบทความที่ซับซ้อนได้, สามารถนำเสนอผลงานหรือให้การบรรยายได้อย่างคล่องแคล่ว, สามารถเข้าใจภาษาแสลงและสำนวนภาษาที่หลากหลายได้
• C2 (ระดับเชี่ยวชาญ): สามารถเข้าใจแทบทุกอย่างที่ได้ยินหรือได้อ่าน สามารถสรุปข้อมูลจากแหล่งที่มาต่างๆ และนำเสนอได้อย่างมีเหตุผลและเป็นระบบ สามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว แม่นยำ และเป็นธรรมชาติในทุกสถานการณ์
  • ตัวอย่างความสามารถ: สามารถแปลเอกสารที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ, สามารถเข้าร่วมการเจรจาทางธุรกิจหรือการประชุมระดับนานาชาติได้อย่างคล่องแคล่ว, สามารถเข้าใจวรรณกรรมและบทกวีที่ซับซ้อนได้

EF SET กับ CEFR

ดังที่คุณได้กล่าวถึง EF SET (EF Standard English Test) เป็นการทดสอบภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ได้รับความนิยม ซึ่งออกแบบมาเพื่อวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้เข้าสอบ โดยผลการทดสอบ EF SET จะถูกแปลงเป็นระดับ CEFR ทำให้ผู้เข้าสอบทราบว่าตนเองอยู่ในระดับใดตามมาตรฐานสากล

สรุป

ตารางคะแนน CEFR เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการประเมินและพัฒนาความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เริ่มต้น ผู้เรียนระดับกลาง หรือผู้ที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษให้เชี่ยวชาญ การทำความเข้าใจ CEFR จะช่วยให้คุณตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ที่ชัดเจน และติดตามความก้าวหน้าของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ CEFR และเป็นประโยชน์ในการพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณต่อไป