น้ําตาลแบบไหนดีต่อสุขภาพ

เลือกน้ำตาลอย่างไร ให้สุขภาพดี: มากกว่าแค่ “ธรรมชาติ”

คำว่า “น้ำตาลจากธรรมชาติ” มักถูกใช้เพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าน้ำตาลเหล่านั้นดีต่อสุขภาพกว่าน้ำตาลทรายขาว แต่ความจริงแล้ว ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่แหล่งที่มาของน้ำตาล แต่เป็นปริมาณและผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดของเรา เพราะไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลจากไหน ก็ล้วนให้พลังงานในรูปของแคลอรี่สูงเหมือนกัน และการบริโภคมากเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพเสมอ

ใช่ว่าน้ำตาลจากธรรมชาติจะไม่มีประโยชน์เลย น้ำผึ้ง น้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำตาลอ้อย อาจมีวิตามิน แร่ธาตุ หรือสารต้านอนุมูลอิสระปะปนอยู่บ้าง ซึ่งน้ำตาลทรายขาวขัดสีแล้วจะไม่มี แต่ปริมาณสารอาหารเหล่านี้มีน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำตาล และไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลเสียจากการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปได้

ดัชนีน้ำตาลในเลือด (Glycemic Index: GI) คือตัวชี้วัดที่ดีกว่า

แทนที่จะมองแค่แหล่งที่มา เราควรพิจารณาค่า GI ซึ่งบอกถึงอัตราเร็วที่น้ำตาลชนิดนั้นถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด น้ำตาลที่มีค่า GI ต่ำจะถูกดูดซึมช้ากว่า ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และมีโอกาสทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินน้อยกว่า น้ำตาลที่มีค่า GI สูงจะถูกดูดซึมเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว

น้ำผึ้งและน้ำตาลอ้อย แม้จะเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ ก็ยังมีค่า GI ที่ค่อนข้างสูง เช่นเดียวกับน้ำตาลมะพร้าว ดังนั้น การเลือกน้ำตาลที่มีค่า GI ต่ำจึงสำคัญกว่าการเลือกน้ำตาลจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว

แล้วจะเลือกน้ำตาลอย่างไร?

คำตอบคือ ควรลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลทุกชนิดให้เหลือน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายขาว น้ำผึ้ง หรือน้ำตาลจากแหล่งอื่นๆ เพราะน้ำตาลทุกชนิดล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพหากบริโภคมากเกินไป ควรเลือกใช้น้ำตาลชนิดต่างๆ อย่างระมัดระวัง และควรคำนึงถึงค่า GI นอกจากนี้ การเลือกใช้วิธีปรุงอาหารที่ไม่ต้องใช้น้ำตาลมาก หรือหันมาใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติอื่นๆ เช่น สเตเวีย หรือสารให้ความหวานจากผลไม้ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี เพื่อสุขภาพที่ดีและสมดุล

สุดท้ายนี้ การเลือกน้ำตาลที่ดีต่อสุขภาพนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำโฆษณา หรือแหล่งที่มาของน้ำตาลเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการบริโภคอย่างมีสติ รู้เท่าทัน และคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวเป็นสำคัญ