ผังงานแบบทําซ้ํามีกี่แบบ

3 การดู

ข้อมูลแนะนำใหม่:

ผังงานแบบทำซ้ำ หรือการวนลูป มี 2 รูปแบบหลักคือ Do While และ Do Until โครงสร้าง Do While จะทำงานซ้ำในขณะที่เงื่อนไขเป็นจริง ส่วน Do Until จะทำงานซ้ำจนกว่าเงื่อนไขจะเป็นจริง ทั้งสองแบบช่วยให้เขียนโปรแกรมที่ทำงานเดิมซ้ำๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดซ้ำหลายครั้ง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผังงานแบบทำซ้ำ: Do While vs. Do Until

การเขียนโปรแกรมมักเกี่ยวข้องกับการทำงานซ้ำๆ เพื่อประสิทธิภาพและความสะดวกในการเขียนโค้ด จึงมีโครงสร้างการวนซ้ำ หรือที่เรียกว่า Loop ผังงานแบบทำซ้ำ แบ่งออกเป็นสองรูปแบบหลักๆ คือ Do While และ Do Until ซึ่งแม้จะมีจุดประสงค์คล้ายกันคือการทำซ้ำชุดคำสั่ง แต่กลไกการทำงานมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

Do While: ทำซ้ำตราบใดที่เงื่อนไขยังเป็นจริง

Do While จะตรวจสอบเงื่อนไข ก่อน เริ่มต้นการวนซ้ำ หากเงื่อนไขเป็นจริง ชุดคำสั่งภายในลูปจะถูกดำเนินการ และจะวนกลับมาตรวจสอบเงื่อนไขอีกครั้ง กระบวนการนี้จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่เงื่อนไขยังคงเป็นจริง เมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ การวนซ้ำจะหยุดลง และโปรแกรมจะดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองนึกภาพสถานการณ์การเติมน้ำใส่แก้ว เราจะเติมน้ำ (ชุดคำสั่ง) ตราบใดที่ ระดับน้ำยังไม่ถึงปากแก้ว (เงื่อนไข) เมื่อน้ำเต็มแก้ว (เงื่อนไขเป็นเท็จ) เราก็จะหยุดเติม

Do Until: ทำซ้ำจนกว่าเงื่อนไขจะเป็นจริง

ในทางตรงกันข้าม Do Until จะดำเนินการชุดคำสั่งภายในลูป ก่อน แล้วจึงตรวจสอบเงื่อนไข การวนซ้ำจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่า เงื่อนไขจะเป็นจริง เมื่อเงื่อนไขเป็นจริง การวนซ้ำจะหยุดลง

เปรียบเทียบกับการกินขนมในถุง เราจะหยิบขนมกิน (ชุดคำสั่ง) ไปเรื่อยๆ จนกว่า ขนมในถุงจะหมด (เงื่อนไข) เมื่อขนมหมด (เงื่อนไขเป็นจริง) เราก็จะหยุดกิน

ความแตกต่างที่สำคัญและการเลือกใช้:

ความแตกต่างหลักระหว่าง Do While และ Do Until อยู่ที่ จังหวะการตรวจสอบเงื่อนไข และ ตรรกะของเงื่อนไข Do While จะตรวจสอบก่อนทำ และวนซ้ำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง ส่วน Do Until จะตรวจสอบหลังทำ และวนซ้ำเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ

การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการ หากต้องการให้ชุดคำสั่งทำงานอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ควรเลือกใช้ Do Until แต่ถ้าต้องการควบคุมการทำงานโดยให้ชุดคำสั่งทำงานเฉพาะเมื่อเงื่อนไขเป็นจริงตั้งแต่เริ่มต้น ควรเลือกใช้ Do While

สรุป:

ทั้ง Do While และ Do Until เป็นเครื่องมือสำคัญในการเขียนโปรแกรม ช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของโค้ด การเข้าใจความแตกต่างและการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะช่วยให้เขียนโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น