ม.3 เกรดอะไร

ไขข้อสงสัย: เกรด ม.3 จริงๆ แล้วเท่าไหร่กันแน่?

คำถามยอดฮิตของนักเรียนและผู้ปกครองหลายท่านคือ ม.3 ควรได้เกรดอะไรถึงจะเรียกว่าดี? หรือ เกรดเฉลี่ยสะสมเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ? ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านี้ไม่ได้มีตัวเลขตายตัวที่สามารถใช้ได้กับทุกโรงเรียนและทุกบริบท เนื่องจากการประเมินผลการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือ ม.3 มีความแตกต่างกันไปตามนโยบายและเกณฑ์การให้คะแนนของแต่ละสถานศึกษา

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ ไม่มี เกรดมาตรฐาน ม.3 ที่ใช้กันทั่วประเทศ แต่ละโรงเรียนจะมีการกำหนดเกณฑ์การให้คะแนนและเกรดที่แตกต่างกัน บางโรงเรียนอาจใช้ระบบการให้เกรดแบบอิงกลุ่ม (Norm-Referenced Grading) ซึ่งเปรียบเทียบผลการเรียนของนักเรียนแต่ละคนกับเพื่อนร่วมชั้น ในขณะที่บางโรงเรียนอาจใช้ระบบการให้เกรดแบบอิงเกณฑ์ (Criterion-Referenced Grading) ซึ่งวัดผลการเรียนของนักเรียนเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

ดังนั้น การคาดหวังว่าจะมีเกรดเฉลี่ยสะสม (GPA) ที่เป็น ตัวเลขวิเศษ ซึ่งบ่งบอกถึงความสำเร็จของนักเรียน ม.3 ทุกคนจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก ตัวอย่างเช่น นักเรียนคนหนึ่งอาจได้เกรดเฉลี่ย 3.50 ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจถือว่าดีมาก ในขณะที่นักเรียนอีกคนอาจได้เกรดเฉลี่ย 3.50 ในโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง

ปัจจัยที่มีผลต่อเกรดเฉลี่ยสะสมของนักเรียน ม.3 ได้แก่:

• ผลการเรียนในแต่ละวิชา: แน่นอนว่าผลการเรียนในแต่ละวิชาเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อเกรดเฉลี่ยสะสม นักเรียนที่ทำคะแนนได้ดีในทุกวิชาย่อมมีโอกาสได้เกรดเฉลี่ยสะสมที่สูงกว่า
• น้ำหนักหน่วยกิตของแต่ละวิชา: บางวิชาอาจมีน้ำหนักหน่วยกิตมากกว่าวิชาอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าวิชาที่มีน้ำหนักหน่วยกิตมากจะมีผลต่อเกรดเฉลี่ยสะสมมากกว่าวิชาที่มีน้ำหนักหน่วยกิตน้อยกว่า
• นโยบายการให้เกรดของโรงเรียน: ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น นโยบายการให้เกรดของแต่ละโรงเรียนมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อเกรดเฉลี่ยสะสมของนักเรียน
• ความยากง่ายของหลักสูตร: ความยากง่ายของหลักสูตรในแต่ละโรงเรียนอาจแตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถของนักเรียนในการทำคะแนนได้ดี

วิธีตรวจสอบเกรดที่ถูกต้องและแม่นยำ:

วิธีที่ดีที่สุดในการทราบเกรดเฉลี่ยสะสมที่ถูกต้องและแม่นยำคือการตรวจสอบกับทางโรงเรียนโดยตรง คุณสามารถสอบถามครูประจำชั้น ครูแนะแนว หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนของโรงเรียน หรือตรวจสอบในระบบรายงานผลการเรียนออนไลน์ของโรงเรียน ซึ่งเป็นช่องทางที่โรงเรียนส่วนใหญ่ใช้ในการแจ้งผลการเรียนให้แก่นักเรียนและผู้ปกครอง

สิ่งที่สำคัญกว่าเกรด:

แม้ว่าเกรดจะเป็นตัวชี้วัดผลการเรียนที่สำคัญ แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือการพัฒนาความรู้ความสามารถและความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียน การตั้งใจเรียน ขยันทำการบ้าน และมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ จะช่วยให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถที่แท้จริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต่อและการทำงานในอนาคตมากกว่าการมุ่งเน้นไปที่เกรดเพียงอย่างเดียว

ดังนั้น แทนที่จะกังวลว่าเกรด ม.3 ควรเป็นเท่าไหร่ นักเรียนและผู้ปกครองควรให้ความสำคัญกับการเรียนรู้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง