รอบ Admission จุฬาใช้คะแนนอะไรบ้าง

รอบ Admission จุฬาฯ ปีการศึกษา 2568: มากกว่า GPAX, TGAT/TPAT และ A-Level

การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (จุฬาฯ) ในรอบ Admission ปีการศึกษา 2568 นั้น เป็นเรื่องที่ผู้สมัครหลายคนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นรอบที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมและมีความสามารถรอบด้านได้เข้าศึกษาต่อในคณะและสาขาวิชาที่ใฝ่ฝัน แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับเกณฑ์การคัดเลือกนั้น อาจยังไม่ครอบคลุม บทความนี้จะเจาะลึกถึงรายละเอียดของคะแนนที่จุฬาฯ ใช้ในการคัดเลือกในรอบ Admission โดยเน้นให้เห็นภาพที่ชัดเจนและครอบคลุมมากกว่าคำกล่าวทั่วไปว่า “ใช้ GPAX, TGAT/TPAT และ A-Level”

ใช่แล้ว จุฬาฯ ใช้คะแนน GPAX, TGAT/TPAT และ A-Level เป็นตัวชี้วัดหลักในรอบ Admission แต่การกล่าวเช่นนี้ยังไม่เพียงพอ เพราะความจริงแล้ว แต่ละคณะและสาขาวิชาของจุฬาฯ มี น้ำหนักและเกณฑ์การพิจารณาที่แตกต่างกันอย่างมาก

GPAX (เกรดเฉลี่ยสะสม) เป็นตัวบ่งชี้ถึงความสามารถทางด้านวิชาการตลอดช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่คะแนน GPAX เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะการันตีความสำเร็จ เพราะแต่ละคณะจะมีเกณฑ์ GPAX ขั้นต่ำที่แตกต่างกัน และบางคณะอาจให้ความสำคัญกับ GPAX ในบางวิชาเฉพาะ เช่น คณะแพทยศาสตร์อาจให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์มากกว่าวิชาอื่นๆ

TGAT/TPAT (ข้อสอบกลาง) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการคัดเลือก โดย TGAT (ข้อสอบความถนัดทั่วไป) เน้นวัดความรู้พื้นฐานและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ส่วน TPAT (ข้อสอบความถนัดทางวิชาการ) จะเน้นวัดความรู้และความเข้าใจในวิชาเฉพาะทาง แต่ละคณะจะเลือกใช้ TGAT หรือ TPAT หรือทั้งสองอย่าง พร้อมทั้งกำหนดน้ำหนักที่แตกต่างกันไป บางคณะอาจให้ความสำคัญกับคะแนนส่วนใดส่วนหนึ่งมากกว่าอีกส่วนหนึ่ง

A-Level (ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย) สำหรับผู้ที่จบหลักสูตร A-Level คะแนนจากหลักสูตรนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณา แต่เช่นเดียวกับ GPAX และ TGAT/TPAT คณะและสาขาวิชาต่างๆ จะมีเกณฑ์และน้ำหนักที่แตกต่างกัน โดยอาจพิจารณาจากคะแนนวิชาเฉพาะ หรือคะแนนรวม

ปัจจัยเพิ่มเติมที่ไม่ควรมองข้าม:

• คะแนนวิชาเฉพาะ: บางคณะอาจกำหนดให้ผู้สมัครต้องมีคะแนนขั้นต่ำในวิชาเฉพาะ เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี หรือภาษาอังกฤษ
• เกณฑ์คะแนนรวม: นอกจากเกณฑ์คะแนนแต่ละส่วนแล้ว ยังมีเกณฑ์คะแนนรวมที่กำหนดไว้ ผู้สมัครต้องมีคะแนนรวมตามที่คณะกำหนดจึงจะผ่านการคัดเลือก
• ผลงาน/กิจกรรมเสริมหลักสูตร: บางคณะอาจพิจารณาผลงานหรือกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพิ่มเติม เพื่อเป็นการประเมินความสามารถและความสนใจเฉพาะด้านของผู้สมัคร

สรุป: การเตรียมตัวสอบเข้าจุฬาฯ รอบ Admission จำเป็นต้องศึกษา รายละเอียดเกณฑ์การคัดเลือกของแต่ละคณะและสาขาวิชาอย่างละเอียด ไม่ควรพึ่งพาเพียงแค่ความเข้าใจทั่วไป เพราะเกณฑ์การคัดเลือกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก การเตรียมตัวอย่างรอบคอบและศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าศึกษาต่อในจุฬาฯ ได้อย่างแน่นอน ควรติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยที่สุด