อายุความละเมิด นับยังไง
ป้องกันสิทธิ์ของคุณ! หากถูกละเมิด เร่งรวบรวมหลักฐานและปรึกษาทนายความทันที อายุความเรียกค่าเสียหายส่วนใหญ่ 1 ปี นับแต่วันที่รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำผิด หรือ 10 ปี นับจากวันที่ถูกละเมิด อย่านิ่งนอนใจ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาสิทธิ์ของคุณให้ทันเวลา.
อายุความละเมิด: ไขข้อสงสัย รู้ทันสิทธิ์ ไม่ปล่อยให้หลุดลอย
การถูกละเมิดไม่ว่าทางใดๆ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการถูกทำร้ายร่างกาย ถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกทำให้ทรัพย์สินเสียหาย หรือแม้แต่การถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ล้วนก่อให้เกิดความเสียหายที่ต้องได้รับการเยียวยา แต่สิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือการรู้ถึง “อายุความ” ในการเรียกร้องค่าเสียหายจากการละเมิด เพื่อป้องกันไม่ให้สิทธิ์ของเราหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย
อายุความละเมิดคืออะไร?
อายุความละเมิดคือ ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้ผู้เสียหายสามารถใช้สิทธิฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำละเมิดได้ หากปล่อยเวลาล่วงเลยกำหนด สิทธิในการฟ้องร้องนั้นจะหมดไป ทำให้ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้อีก
แล้วอายุความละเมิดนับอย่างไร?
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 ได้กำหนดอายุความในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดไว้ 2 กรณีหลักๆ คือ
- อายุความ 1 ปี: นับแต่วันที่ผู้เสียหายได้รู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้กระทำละเมิด
- ประเด็นสำคัญ: การนับอายุความ 1 ปีนี้ ต้องประกอบด้วย 2 องค์ประกอบ คือ “รู้เรื่องการละเมิด” และ “รู้ตัวผู้กระทำละเมิด” หากขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งไป อายุความ 1 ปีนี้ก็จะยังไม่เริ่มนับ
- ตัวอย่าง: นาย A ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บสาหัสในวันที่ 1 มกราคม 2566 นาย A รู้ว่าถูกรถชน แต่ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ขับขี่ จนกระทั่งวันที่ 1 มีนาคม 2566 นาย A ได้รับแจ้งจากตำรวจว่าผู้ขับขี่คือ นาย B อายุความ 1 ปีของนาย A จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 และจะสิ้นสุดในวันที่ 1 มีนาคม 2567
- อายุความ 10 ปี: นับแต่วันที่เกิดการละเมิด
- ประเด็นสำคัญ: อายุความ 10 ปีนี้ ถือเป็นอายุความสูงสุดของการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการละเมิด หากแม้ว่าผู้เสียหายจะไม่ทราบเรื่องการละเมิด หรือไม่ทราบตัวผู้กระทำละเมิดเลยก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี นับแต่วันที่เกิดการละเมิด สิทธิในการฟ้องร้องก็จะหมดไป
- ตัวอย่าง: ที่ดินของนาง C ถูกบุกรุกสร้างบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตในวันที่ 1 พฤษภาคม 2556 นาง C ไม่ทราบเรื่องนี้เลย จนกระทั่งวันที่ 1 มิถุนายน 2566 นาง C ทราบเรื่องการบุกรุก อายุความ 1 ปีของนาง C จะไม่สามารถใช้ได้แล้ว เพราะเลยระยะเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ถูกบุกรุกไปแล้ว
สิ่งที่ควรทำเมื่อถูกละเมิด:
- รวบรวมหลักฐาน: การรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วิดีโอ เอกสาร หรือพยานบุคคล เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาคดี
- ปรึกษาทนายความ: การปรึกษาทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายละเมิดจะช่วยให้ท่านเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเอง รวมถึงแนวทางการดำเนินคดีที่เหมาะสม
- ดำเนินการฟ้องร้อง: หากทนายความเห็นว่ามีมูลเหตุเพียงพอในการฟ้องร้อง ควรดำเนินการฟ้องร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ข้อควรระวัง:
- อย่านิ่งนอนใจเมื่อถูกละเมิด ควรรีบดำเนินการรวบรวมหลักฐานและปรึกษาทนายความโดยเร็วที่สุด
- การที่ผู้เสียหายไม่ทราบเรื่องการละเมิด หรือไม่ทราบตัวผู้กระทำละเมิด ไม่ได้หมายความว่าอายุความจะหยุดนับ
- ควรตรวจสอบระยะเวลาที่เหลืออยู่ของอายุความอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้สิทธิในการฟ้องร้องหมดไป
สรุป:
การรู้ถึงอายุความละเมิดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาสิทธิของตนเอง หากถูกละเมิด ควรรีบดำเนินการรวบรวมหลักฐาน ปรึกษาทนายความ และดำเนินการฟ้องร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ได้รับการเยียวยาความเสียหายอย่างเป็นธรรม
Disclaimer: ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อความถูกต้องและแม่นยำ ควรปรึกษาทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายละเมิดโดยตรง เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของท่าน
#กฎหมาย#วิธีนับ#อายุความละเมิดข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต