เติม s หรือ es หลังคํานามพหูพจน์อย่างไร
ปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ของคุณด้วยการเขียน! ฝึกฝนการเขียนอย่างสม่ำเสมอ ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสาร เลือกหัวข้อที่สนใจ และอย่าลืมตรวจสอบไวยากรณ์ก่อนเผยแพร่ผลงาน
เติม “s” หรือ “es”: เคล็ดลับง่ายๆ เสริมความแม่นยำในการใช้คำนามพหูพจน์ภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์และข้อยกเว้นที่อาจทำให้ผู้เรียนปวดหัวได้ หนึ่งในนั้นคือการทำให้คำนามเป็นพหูพจน์ หลายคนอาจคุ้นเคยกับการเติม “s” ท้ายคำ แต่เมื่อไหร่ที่เราต้องเติม “es” ล่ะ? บทความนี้จะไขข้อสงสัยนั้นด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณใช้คำนามพหูพจน์ได้อย่างมั่นใจ
กฎพื้นฐาน: เติม “s” เป็นหลัก
โดยทั่วไปแล้ว เราจะเติม “s” ท้ายคำนามเอกพจน์เพื่อเปลี่ยนให้เป็นพหูพจน์ เช่น
- book (หนังสือ) -> books (หนังสือหลายเล่ม)
- cat (แมว) -> cats (แมวหลายตัว)
- table (โต๊ะ) -> tables (โต๊ะหลายตัว)
เมื่อไหร่ต้องเติม “es”?
กฎข้อนี้สำคัญมาก! เราจะเติม “es” เมื่อคำนามเอกพจน์นั้นลงท้ายด้วย:
-
s, ss, sh, ch, x, z: เพื่อให้ง่ายต่อการออกเสียง
- bus (รถประจำทาง) -> buses (รถประจำทางหลายคัน)
- kiss (จูบ) -> kisses (จูบหลายครั้ง)
- dish (จาน) -> dishes (จานหลายใบ)
- watch (นาฬิกาข้อมือ) -> watches (นาฬิกาข้อมือหลายเรือน)
- box (กล่อง) -> boxes (กล่องหลายใบ)
- quiz (แบบทดสอบ) -> quizzes (แบบทดสอบหลายชุด)
-
o (ส่วนใหญ่): แม้จะมีข้อยกเว้นอยู่บ้างก็ตาม
- potato (มันฝรั่ง) -> potatoes (มันฝรั่งหลายหัว)
- tomato (มะเขือเทศ) -> tomatoes (มะเขือเทศหลายลูก)
- hero (วีรบุรุษ) -> heroes (วีรบุรุษหลายคน)
ข้อยกเว้นสำหรับคำที่ลงท้ายด้วย “o”: มีคำที่ลงท้ายด้วย “o” แต่เติมแค่ “s” เช่น photo (photo), piano (piano), zoo (zoo).
คำนามที่เปลี่ยนรูปไปเลย (Irregular Plurals)
นอกจากกฎเกณฑ์ข้างต้น ยังมีคำนามบางคำที่ไม่เป็นไปตามกฎ และมีการเปลี่ยนรูปไปเลยเมื่อเป็นพหูพจน์ ตัวอย่างเช่น
- man (ผู้ชาย) -> men (ผู้ชายหลายคน)
- woman (ผู้หญิง) -> women (ผู้หญิงหลายคน)
- child (เด็ก) -> children (เด็กหลายคน)
- foot (เท้า) -> feet (เท้าสองข้าง)
- tooth (ฟัน) -> teeth (ฟันหลายซี่)
- mouse (หนู) -> mice (หนูหลายตัว)
- person (คน) -> people (ผู้คน)
คำนามที่คงรูปเดิม (Uncountable Nouns)
ยังมีคำนามอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถนับได้ (uncountable nouns) ซึ่งมักจะอยู่ในรูปเอกพจน์เสมอ และไม่สามารถเติม “s” หรือ “es” ได้ ตัวอย่างเช่น
- water (น้ำ)
- rice (ข้าว)
- information (ข้อมูล)
- advice (คำแนะนำ)
- furniture (เฟอร์นิเจอร์)
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- จำกฎพื้นฐานให้แม่นยำ: การเข้าใจกฎพื้นฐานและข้อยกเว้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
- ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: ยิ่งคุณได้เห็นและใช้คำนามพหูพจน์มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งคุ้นเคยมากขึ้นเท่านั้น
- สังเกตการใช้งานจริง: อ่านหนังสือ บทความ หรือฟังภาษาอังกฤษ แล้วสังเกตการใช้คำนามพหูพจน์ในบริบทต่างๆ
- ใช้พจนานุกรม: หากไม่แน่ใจ ให้ตรวจสอบในพจนานุกรมเสมอ
การเข้าใจหลักการเติม “s” หรือ “es” หลังคำนามพหูพจน์เป็นเพียงก้าวแรกสู่การใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว อย่าท้อแท้หากยังไม่มั่นใจในทันที การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะนี้ได้ดียิ่งขึ้น
แรงบันดาลใจในการเขียน:
อย่าลืมว่าการเขียนเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ลองเลือกหัวข้อที่คุณสนใจ แล้วเขียนเกี่ยวกับมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว ความคิดเห็นเกี่ยวกับสังคม หรือแม้แต่บทความให้ความรู้เล็กๆ น้อยๆ อย่างบทความนี้ การเขียนจะช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารของคุณให้ดียิ่งขึ้น และอย่าลืมตรวจสอบไวยากรณ์ก่อนเผยแพร่ผลงาน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อความของคุณสื่อสารได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง
#คำนาม#พหูพจน์#ไวยากรณ์ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต