เสียงแบ่งตามความถี่ได้กี่ชนิด มีลักษณะอย่างไร

โลกแห่งเสียง: การแบ่งประเภทตามความถี่และลักษณะเฉพาะ

โลกของเราเต็มไปด้วยเสียงหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เสียงกระซิบเบาๆ ไปจนถึงเสียงคำรามของพายุ แต่เสียงเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความรู้สึกทางประสาทสัมผัสเท่านั้น มันยังมีลักษณะทางกายภาพที่สามารถวัดและจำแนกได้ โดยหนึ่งในวิธีการจำแนกที่สำคัญที่สุดก็คือการแบ่งประเภทตามความถี่ ซึ่งความถี่นี้วัดเป็นหน่วยเฮิรตซ์ (Hz) แสดงถึงจำนวนการสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงต่อวินาที

แม้ว่ามนุษย์จะสามารถรับรู้เสียงได้เพียงช่วงจำกัด แต่เสียงนั้นมีอยู่จริงในหลายช่วงความถี่ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเภทหลักตามความถี่ดังนี้:

1. เสียงที่มนุษย์ได้ยิน (Audible Sound): นี่คือช่วงความถี่ที่หูของมนุษย์สามารถรับรู้ได้ โดยทั่วไปอยู่ในช่วง 20 เฮิรตซ์ ถึง 20,000 เฮิรตซ์ อย่างไรก็ตาม ช่วงความถี่ที่รับรู้ได้นี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงความถี่สูงมักจะลดลงตามอายุ เสียงในช่วงนี้มีความหลากหลายอย่างมาก ตั้งแต่เสียงทุ้มต่ำของเครื่องดนตรีบางชนิดไปจนถึงเสียงแหลมสูงของนกหวีด ลักษณะของเสียงในช่วงนี้จะขึ้นอยู่กับความถี่ แอมพลิจูด (ความดัง) และรูปคลื่น ซึ่งจะส่งผลต่อความรู้สึกที่เราได้รับ เช่น เสียงนุ่มนวล เสียงดังก้อง เสียงใส หรือเสียงทึบ

2. คลื่นใต้เสียง (Infrasound): คลื่นใต้เสียงคือคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ ซึ่งต่ำเกินกว่าที่หูมนุษย์จะสามารถรับรู้ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตบางชนิด เช่น ช้าง สามารถรับรู้และใช้คลื่นใต้เสียงในการสื่อสารได้ แหล่งกำเนิดของคลื่นใต้เสียงอาจเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือจากแหล่งกำเนิดของมนุษย์ เช่น เครื่องจักรขนาดใหญ่ แม้ว่ามนุษย์จะไม่ได้ยินคลื่นใต้เสียง แต่ก็อาจรู้สึกได้ในรูปของแรงสั่นสะเทือน หรืออาจส่งผลกระทบต่อร่างกายในบางกรณี เช่น อาการคลื่นไส้ ปวดหัว หรือความรู้สึกไม่สบายตัว

3. คลื่นเหนือเสียง (Ultrasound): คลื่นเหนือเสียงคือคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงกว่า 20,000 เฮิรตซ์ เช่นเดียวกับคลื่นใต้เสียง มนุษย์ไม่สามารถได้ยินคลื่นเหนือเสียงได้ แต่สัตว์บางชนิด เช่น ค้างคาว และโลมา สามารถใช้คลื่นเหนือเสียงในการนำทางและล่าเหยื่อ (echolocation) คลื่นเหนือเสียงถูกนำไปใช้ประโยชน์ในเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การตรวจอัลตราซาวนด์ทางการแพทย์ การตรวจสอบความเสียหายของวัสดุ และการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ

สรุปได้ว่า การแบ่งประเภทเสียงตามความถี่นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำความเข้าใจโลกแห่งเสียงที่ซับซ้อน การศึกษาเสียงในแต่ละช่วงความถี่ จะช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติ และประยุกต์ใช้เสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านเทคโนโลยี การแพทย์ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม