แบบสัมภาษณ์กับแบบสอบถามต่างกันยังไง

2 การดู

แบบสอบถามใช้แบบฟอร์มสำรวจความคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร สะดวก รวดเร็ว และครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ ส่วนการสัมภาษณ์เน้นปฏิสัมพันธ์โดยตรง เจาะลึกความคิดเห็นและอารมณ์ ได้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เหมาะสำหรับกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก หรือต้องการข้อมูลรายละเอียดเฉพาะเจาะจง แต่ใช้เวลาและทรัพยากรมากกว่า

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สองเครื่องมือไขความลับ: เจาะลึกความแตกต่างระหว่างแบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม

ในโลกของการวิจัยและสำรวจความคิดเห็น มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและใช้งานอย่างแพร่หลายคือ “แบบสอบถาม” และ “แบบสัมภาษณ์” แม้ว่าทั้งสองเครื่องมือนี้มีจุดประสงค์เดียวกันคือการเก็บรวบรวมข้อมูล แต่มีความแตกต่างกันอย่างมากในแง่ของวิธีการ ลักษณะการใช้งาน และข้อมูลที่ได้รับ

แบบสอบถาม: การสำรวจความคิดเห็นในวงกว้าง

จินตนาการว่าคุณต้องการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวนมากเกี่ยวกับนโยบายใหม่ของรัฐบาล การใช้แบบสอบถามคือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด แบบสอบถามคือชุดคำถามที่ออกแบบมาอย่างดี โดยมักอยู่ในรูปแบบลายลักษณ์อักษร (ทั้งแบบกระดาษและแบบออนไลน์) ที่ส่งไปยังกลุ่มตัวอย่างเพื่อตอบคำถามด้วยตนเอง

ข้อดีของแบบสอบถาม:

  • ความสะดวกและรวดเร็ว: สามารถส่งแบบสอบถามไปยังผู้ตอบจำนวนมากได้พร้อมกัน ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร
  • ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่: สามารถเข้าถึงผู้คนได้หลากหลายพื้นที่และภูมิหลัง ทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นตัวแทนของประชากรโดยรวม
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย: เมื่อเทียบกับการสัมภาษณ์ การทำแบบสอบถามมักมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า
  • ความเป็นส่วนตัว: ผู้ตอบสามารถตอบคำถามได้อย่างอิสระและเป็นส่วนตัว โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับผู้สัมภาษณ์

ข้อจำกัดของแบบสอบถาม:

  • ข้อมูลผิวเผิน: เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลาและพื้นที่ คำถามในแบบสอบถามมักเป็นคำถามปลายปิด (เช่น คำถามแบบเลือกตอบ) ทำให้ได้ข้อมูลที่ค่อนข้างผิวเผิน
  • ความเข้าใจผิด: ผู้ตอบอาจตีความคำถามผิดพลาด หรือไม่เข้าใจความหมายของคำถาม ทำให้ข้อมูลที่ได้ไม่ถูกต้อง
  • อัตราการตอบกลับต่ำ: ผู้คนจำนวนมากอาจไม่สนใจที่จะตอบแบบสอบถาม ทำให้ข้อมูลที่ได้ไม่เป็นตัวแทนของประชากรทั้งหมด

แบบสัมภาษณ์: การเจาะลึกความคิดและความรู้สึก

ในทางตรงกันข้าม หากคุณต้องการเข้าใจความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ของผู้คนอย่างลึกซึ้ง การสัมภาษณ์คือเครื่องมือที่เหมาะสมกว่า แบบสัมภาษณ์คือการสนทนาโดยตรงระหว่างผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ โดยผู้สัมภาษณ์จะตั้งคำถามและบันทึกคำตอบของผู้ถูกสัมภาษณ์

ข้อดีของแบบสัมภาษณ์:

  • ข้อมูลเชิงลึก: การสัมภาษณ์ช่วยให้ผู้สัมภาษณ์สามารถเจาะลึกความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ของผู้ถูกสัมภาษณ์ ทำให้ได้ข้อมูลที่มีคุณค่าและละเอียดอ่อน
  • ความยืดหยุ่น: ผู้สัมภาษณ์สามารถปรับเปลี่ยนคำถามให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของผู้ถูกสัมภาษณ์
  • การสังเกตพฤติกรรม: ผู้สัมภาษณ์สามารถสังเกตพฤติกรรมที่ไม่ใช่คำพูดของผู้ถูกสัมภาษณ์ เช่น สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง ซึ่งอาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่สำคัญ
  • การสร้างความสัมพันธ์: การสัมภาษณ์ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อมูลที่เปิดเผยและซื่อสัตย์มากขึ้น

ข้อจำกัดของแบบสัมภาษณ์:

  • ใช้เวลาและทรัพยากรมาก: การสัมภาษณ์ต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากกว่าการทำแบบสอบถาม
  • ขนาดกลุ่มตัวอย่างเล็ก: เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลาและทรัพยากร การสัมภาษณ์มักจะจำกัดอยู่กับกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก
  • อคติของผู้สัมภาษณ์: ผู้สัมภาษณ์อาจมีอคติที่ส่งผลต่อคำถามที่ตั้งและการตีความคำตอบ
  • ความเป็นส่วนตัวน้อย: ผู้ถูกสัมภาษณ์อาจไม่สะดวกที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวต่อผู้สัมภาษณ์

สรุป: เลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับเป้าหมาย

แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมข้อมูล แต่มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการวิจัย ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง และทรัพยากรที่มีอยู่

  • เลือกแบบสอบถาม หากต้องการสำรวจความคิดเห็นในวงกว้าง รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย
  • เลือกแบบสัมภาษณ์ หากต้องการเจาะลึกความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ของผู้คน และต้องการข้อมูลเชิงลึกที่มีรายละเอียด

การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมและเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีคุณภาพ ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์การวิจัยที่แม่นยำและเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น