แพทย์ รอบ 3 ใช้คะแนนอะไรบ้าง 67

0 การดู

การคัดเลือกแพทย์รอบ 3 มักเน้นคุณสมบัติเฉพาะด้าน เช่น ผลงานวิจัย การเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณสุข และประสบการณ์ทำงานอาสาสมัคร ซึ่งคณะแพทย์แต่ละแห่งอาจมีเกณฑ์และน้ำหนักคะแนนที่แตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบรายละเอียดกับแต่ละมหาวิทยาลัยโดยตรง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สู่เส้นทางหมอ รอบ 3: คะแนน 67 พอไหม? เจาะลึกเกณฑ์คัดเลือกที่คุณต้องรู้

การสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ รอบ 3 นับเป็นเส้นทางที่เปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีความโดดเด่นเฉพาะด้านได้แสดงศักยภาพ ต่างจากรอบก่อนหน้าที่เน้นผลคะแนนสอบเป็นหลัก รอบ 3 มุ่งเน้นการพิจารณาคุณสมบัติที่สะท้อนถึงความพร้อมในการเป็นแพทย์อย่างแท้จริง คำถามที่หลายคนสงสัยคือ คะแนน 67 (ซึ่งคาดว่าหมายถึง GPAX) เพียงพอหรือไม่? คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และไม่สามารถฟันธงได้เพียงแค่ GPAX ตัวเลขเดียว

คะแนน 67 ถือว่าเป็นพื้นฐานที่ดี แต่ในรอบ 3 นี้ มหาวิทยาลัยต่างๆ จะพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย โดยมีน้ำหนักคะแนนที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ ดังนี้

  • ผลการเรียน: GPAX เป็นส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด บางแห่งอาจพิจารณาผลการเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ หรือ Transcript ที่แสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอในการเรียน
  • พอร์ตโฟลิโอ: นี่คือหัวใจสำคัญของรอบ 3 พอร์ตโฟลิโอควรแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความมุ่งมั่นในการเป็นแพทย์ ประกอบด้วย
    • กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์สุขภาพ: เช่น การเข้าร่วมโครงการวิจัย, การแข่งขันวิชาการ, การเข้าค่ายแพทย์, การฝึกงานในโรงพยาบาล เป็นต้น
    • กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์และกิจกรรมเพื่อสังคม: แสดงถึงจิตอาสา ความเสียสละ และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เช่น การเป็นอาสาสมัครในหน่วยแพทย์เคลื่อนที่, การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส, การทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ในชุมชน
    • รางวัลและเกียรติบัตร: เป็นเครื่องยืนยันความสามารถและความสำเร็จในด้านต่างๆ
    • จดหมายแนะนำ: จากอาจารย์ หรือบุคคลที่รู้จักคุณสมบัติของคุณเป็นอย่างดี เพื่อยืนยันความเหมาะสมในการเข้าศึกษาต่อ
  • ความสามารถในการสื่อสารและบุคลิกภาพ: ประเมินผ่านการสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นโอกาสให้ผู้สมัครได้แสดงความคิด ทัศนคติ และความมุ่งมั่นในการเป็นแพทย์ รวมถึงการตอบคำถามเฉพาะทาง และการแก้ไขสถานการณ์สมมุติ

ดังนั้น แม้ GPAX 67 อาจยังไม่สูงมากนัก แต่หากมีพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความสนใจ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพแพทย์ ประกอบกับการทำผลงานในการสัมภาษณ์ได้ดี ก็มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จในการสอบเข้า

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การตรวจสอบเกณฑ์การคัดเลือก และน้ำหนักคะแนนของแต่ละมหาวิทยาลัยโดยตรง เนื่องจากแต่ละแห่งมีนโยบายและความต้องการที่แตกต่างกัน การเตรียมตัวอย่างรอบด้าน และการแสดงศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเข้าศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์รอบ 3.