แอลลีลเด่นคืออะไร

1 การดู

แอลลีลเด่นเป็นรูปแบบของยีนที่กำหนดลักษณะที่ปรากฏได้แม้จะมีแอลลีลด้อยร่วมอยู่ด้วย ลักษณะเด่นจะแสดงออกในทั้งบุคคลที่มีแอลลีลสองชุดที่เหมือนกัน (โฮโมไซกัส) และบุคคลที่มีแอลลีลสองชุดที่ต่างกัน (เฮเทอโรไซกัส)

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อยีนเด่นแสดงพลัง: ทำความรู้จักกับ “แอลลีลเด่น”

เราทุกคนต่างมีลักษณะทางพันธุกรรมที่ได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ ลักษณะเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นสีตา สีผม หรือแม้แต่ความสูง ล้วนถูกควบคุมโดยยีน แต่ยีนแต่ละตัวอาจมีหลายรูปแบบที่เรียกว่า “แอลลีล” และการทำงานร่วมกันของแอลลีลเหล่านี้จะกำหนดลักษณะที่ปรากฏออกมา ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกับ “แอลลีลเด่น” หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่กำหนดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต

แอลลีลเด่น คือรูปแบบของยีนที่สามารถแสดงลักษณะที่ปรากฏออกมาได้อย่างเด่นชัด แม้ว่าจะมีแอลลีลอีกตัวหนึ่งที่แตกต่างกัน (เรียกว่า แอลลีลด้อย) อยู่ร่วมกันในสิ่งมีชีวิตนั้นๆ ก็ตาม กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ แอลลีลเด่นมี “อำนาจ” มากกว่าที่จะแสดงออก ทำให้ลักษณะที่แอลลีลเด่นกำหนด เป็นลักษณะที่ปรากฏให้เห็น โดยไม่คำนึงถึงว่าแอลลีลคู่ของมันเป็นแบบใด

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ลองนึกภาพการทดลองกับดอกไม้ สมมติว่ายีนที่ควบคุมสีของดอกไม้มีสองแอลลีล คือ แอลลีลเด่น (R) ที่ให้สีแดง และแอลลีลด้อย (r) ที่ให้สีขาว

  • โฮโมไซกัสเด่น (RR): หากดอกไม้มีแอลลีล R สองตัว (RR) ดอกไม้จะมีสีแดง เนื่องจากแอลลีล R แสดงออกอย่างเด่นชัด

  • เฮเทอโรไซกัส (Rr): หากดอกไม้มีแอลลีล R หนึ่งตัวและแอลลีล r หนึ่งตัว (Rr) ดอกไม้ก็ยังคงมีสีแดง เพราะแอลลีลเด่น R มีอำนาจเหนือกว่าแอลลีลด้อย r ทำให้แอลลีล r ไม่สามารถแสดงลักษณะสีขาวออกมาได้

  • โฮโมไซกัสด้อย (rr): ในกรณีที่ดอกไม้มีแอลลีล r สองตัว (rr) ดอกไม้จึงจะมีสีขาว เพราะไม่มีแอลลีลเด่นมาข่ม ทำให้ลักษณะด้อยแสดงออกมาได้

ดังนั้น แอลลีลเด่นจึงไม่ใช่เพียงแค่การมีอิทธิพลเหนือกว่า แต่เป็นการควบคุมการแสดงออกของลักษณะทางพันธุกรรม โดยการกำหนดให้ลักษณะที่มันกำหนดปรากฏออกมา แม้ว่าจะมีแอลลีลอื่นๆ ร่วมอยู่ด้วยก็ตาม ความเข้าใจเกี่ยวกับแอลลีลเด่นเป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาทางพันธุศาสตร์ และช่วยให้เราสามารถทำนายลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตรุ่นต่อไปได้อย่างแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาและรักษาโรคทางพันธุกรรมอีกด้วย เพราะโรคหลายชนิดเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีน และแอลลีลเด่นบางตัวอาจก่อให้เกิดโรคได้ การเข้าใจกลไกเหล่านี้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาการแพทย์ในอนาคต