ใครมีหน้าที่ส่งเด็กเข้าเรียนตาม พ.ร.บ. การศึกษาภาคบังคับ

2 การดู

ตาม พ.ร.บ. การศึกษาภาคบังคับ ผู้ปกครองมีหน้าที่ส่งบุตรหลานเข้าเรียนตามกำหนด หากบุตรหลานอายุถึงเกณฑ์เข้าเรียนภาคบังคับ แต่ผู้ปกครองไม่ส่งเรียน จะมีความผิดตามกฎหมาย การส่งบุตรหลานเข้าเรียนเป็นหน้าที่สำคัญที่ช่วยสร้างอนาคตที่ดีให้กับเด็ก สถานศึกษาพร้อมให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำแก่ผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์: ผู้ปกครองกับการส่งบุตรหลานเข้าเรียนตาม พ.ร.บ. การศึกษาภาคบังคับ

ในสังคมที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความรู้ของเยาวชน การศึกษาจึงถือเป็นรากฐานสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ (พ.ร.บ. การศึกษาภาคบังคับ) จึงถูกบัญญัติขึ้นเพื่อรองรับสิทธิขั้นพื้นฐานทางการศึกษาของเด็กไทยทุกคน และเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศชาติ

หัวใจสำคัญของ พ.ร.บ. นี้อยู่ที่การกำหนด “หน้าที่” อันพึงมีต่อการศึกษาของเด็ก ซึ่งหน้าที่นั้นตกอยู่กับ “ผู้ปกครอง” โดยตรง

ผู้ปกครองในบริบทของกฎหมายนี้ ไม่ได้จำกัดความเพียงแค่บิดามารดาเท่านั้น แต่หมายรวมถึง บุคคลใดก็ตามที่รับเด็กไว้ในความปกครอง ดูแล อุปการะเลี้ยงดู หรือให้การศึกษา ไม่ว่าจะเป็นปู่ย่าตายาย ญาติสนิท หรือแม้กระทั่งผู้ที่รับเด็กมาอุปการะอย่างถูกต้องตามกฎหมาย บุคคลเหล่านี้ล้วนมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้รับการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด

หน้าที่ของผู้ปกครองตาม พ.ร.บ. การศึกษาภาคบังคับ คือการนำบุตรหลานที่มีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด (อายุครบหกปีบริบูรณ์) เข้าเรียนในสถานศึกษา จนกว่าจะจบการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งปัจจุบันคือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรืออายุครบสิบหกปีบริบูรณ์ หากผู้ปกครองละเลย ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด จะถือว่ามีความผิดและอาจต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้

ทำไมกฎหมายจึงให้ความสำคัญกับหน้าที่ของผู้ปกครอง?

เหตุผลสำคัญคือ การศึกษาภาคบังคับถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กทุกคนพึงได้รับ การปล่อยปละละเลยไม่ส่งเด็กเข้าเรียน จะเป็นการปิดกั้นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของเด็ก ขัดขวางการเติบโตเป็นพลเมืองที่ดี และอาจนำไปสู่ปัญหาทางสังคมในอนาคต

นอกจากนี้ การศึกษาภาคบังคับยังเป็นกลไกสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ช่วยให้เด็กทุกคน ไม่ว่าจะมีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างไรก็ตาม ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน

สถานศึกษา: พันธมิตรในการสนับสนุนผู้ปกครอง

พ.ร.บ. การศึกษาภาคบังคับ ไม่ได้กำหนดหน้าที่ให้ผู้ปกครองแต่เพียงฝ่ายเดียว สถานศึกษาเองก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียน สถานศึกษาจะต้องจัดเตรียมระบบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก และให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาของบุตรหลาน

การส่งบุตรหลานเข้าเรียนตาม พ.ร.บ. การศึกษาภาคบังคับ จึงไม่ใช่เพียงแค่หน้าที่ทางกฎหมาย แต่เป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ปกครองพึงมีต่อบุตรหลาน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับเด็ก และเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน