18 ปี ยังเป็นผู้เยาว์อยู่ไหม

1 การดู

ในประเทศไทย บุคคลจะบรรลุนิติภาวะเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือเมื่อสมรสแล้วโดยอายุทั้งคู่ไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์ แม้จะอายุ 18 ปีแล้ว แต่ก็ยังถือเป็นผู้เยาว์อยู่หากยังไม่บรรลุนิติภาวะตามเงื่อนไขข้างต้น การสมรสก่อนอายุ 17 ปี ต้องได้รับอนุญาตจากศาล จึงจะพ้นสถานะผู้เยาว์ได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อายุ 18 ปี: เส้นแบ่งบางๆ ระหว่างเยาว์วัยกับความเป็นผู้ใหญ่ในสังคมไทย

ในหลายสังคมทั่วโลก อายุ 18 ปี ถูกมองว่าเป็นหมุดหมายสำคัญของการเปลี่ยนผ่านจากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่บุคคลได้รับสิทธิและหน้าที่พลเมืองหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเลือกตั้ง การทำสัญญา หรือการได้รับใบอนุญาตขับขี่ แต่สำหรับประเทศไทย เส้นแบ่งนี้กลับไม่ได้คมชัดเช่นนั้น

ตามกฎหมายไทยแล้ว บุคคลจะบรรลุนิติภาวะอย่างเป็นทางการเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือเมื่อ สมรสแล้วโดยที่อายุทั้งคู่ไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์ นั่นหมายความว่า แม้ใครคนหนึ่งจะมีอายุถึง 18 ปีแล้ว แต่หากยังไม่เข้าเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งข้างต้น ก็ยังคงถูกพิจารณาว่าเป็น ผู้เยาว์ อยู่

สถานะ “ผู้เยาว์” นี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสิทธิและความรับผิดชอบของบุคคล ยกตัวอย่างเช่น ผู้เยาว์ไม่สามารถทำธุรกรรมทางกฎหมายได้ด้วยตนเอง เช่น การซื้อขายที่ดิน การทำสัญญาเช่า หรือการกู้ยืมเงิน เว้นแต่จะได้รับการยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ซึ่งโดยทั่วไปคือบิดามารดา หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย

ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำบางอย่างที่อาจไม่ผิดกฎหมายสำหรับผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว อาจถือเป็นความผิดหากกระทำโดยผู้เยาว์ เช่น การซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการเข้าชมสถานที่บันเทิงบางประเภท

ทำไมประเทศไทยจึงกำหนดอายุบรรลุนิติภาวะไว้ที่ 20 ปี?

เหตุผลเบื้องหลังการกำหนดอายุบรรลุนิติภาวะไว้ที่ 20 ปีนั้น อาจเกี่ยวเนื่องกับความเชื่อและความคาดหวังทางสังคมที่ว่า บุคคลในช่วงวัยนี้ยังต้องการการดูแลและการปกป้องจากผู้ใหญ่ เนื่องจากยังขาดวุฒิภาวะและความสามารถในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่างๆ อย่างรอบคอบ

อย่างไรก็ตาม การกำหนดอายุบรรลุนิติภาวะไว้ที่ 20 ปี ก็ก่อให้เกิดคำถามและความท้าทายบางประการเช่นกัน มีผู้โต้แย้งว่า อายุ 18 ปี เป็นช่วงวัยที่บุคคลส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเสร็จสิ้น และมีความสามารถในการตัดสินใจด้วยตนเองได้ในระดับหนึ่ง การจำกัดสิทธิและโอกาสของบุคคลในช่วงวัยนี้ อาจเป็นการปิดกั้นศักยภาพและความสามารถในการพัฒนาตนเอง

ความท้าทายและข้อถกเถียง

การที่ประเทศไทยยังคงใช้เกณฑ์อายุ 20 ปีในการบรรลุนิติภาวะ ทำให้เกิดความแตกต่างและความสับสนเมื่อเปรียบเทียบกับนานาชาติที่ส่วนใหญ่กำหนดไว้ที่ 18 ปี นอกจากนี้ ยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการสมรสก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่อายุต่ำกว่า 17 ปี ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากศาลจึงจะสามารถกระทำได้ แม้ว่ากฎหมายนี้มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องเด็ก แต่ก็อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการส่งเสริมให้มีการแต่งงานในวัยที่ยังไม่พร้อม

โดยสรุปแล้ว การพิจารณาว่าอายุ 18 ปี เป็นผู้เยาว์หรือไม่ในประเทศไทยนั้น ขึ้นอยู่กับบริบททางกฎหมายและเงื่อนไขเฉพาะบุคคล แม้ว่าอายุ 18 ปี จะเป็นช่วงวัยที่สำคัญในการพัฒนาตนเองและเตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้ใหญ่ แต่ในทางกฎหมายแล้ว ยังคงต้องรอจนกว่าจะอายุครบ 20 ปี หรือสมรสแล้ว จึงจะพ้นจากสถานะผู้เยาว์ได้อย่างสมบูรณ์ การทำความเข้าใจถึงกฎหมายและสิทธิของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเยาวชนทุกคนในการก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่อย่างมั่นใจและมีความรับผิดชอบ