Career Objective ควรเขียนยังไง

การเขียน Career Objective ที่โดดเด่นและมีประสิทธิภาพ

การเขียน “Career Objective” หรือ “จุดมุ่งหมายในการทำงาน” ในเรซูเม่ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูดความสนใจของนายจ้าง มากกว่าที่จะเป็นเพียงการระบุตำแหน่งที่ต้องการ มันควรสะท้อนถึงความมุ่งมั่น ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และความต้องการที่จะนำทักษะและประสบการณ์มาประยุกต์ใช้ในงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ตาม หลายๆ คนยังคงสับสนในการเขียน Career Objective ที่ดี บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจ และนำเสนอแนวทางในการเขียนที่โดดเด่น ซึ่งแตกต่างจากเนื้อหาที่มีอยู่ทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต

การหลีกเลี่ยงความผิดพลาด

• การเขียนทั่วไปเกินไป: อย่าใช้คำพูดที่กว้างเกินไป เช่น “ต้องการตำแหน่งงานที่ท้าทาย” หรือ “แสวงหาบทบาทในการบริหารจัดการ” นายจ้างต้องการเห็นความชัดเจนและความเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างที่ดีกว่าคือ “แสวงหาตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดดิจิทัลเพื่อนำประสบการณ์ 5 ปีในการสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขายมาพัฒนาแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด”

• การลอกเลียนแบบ: อย่าเขียน Career Objective ที่เหมือนกับคนอื่น ให้พิจารณาประสบการณ์และทักษะของคุณเป็นพิเศษ อย่าลืมว่าการเขียนที่แสดงความโดดเด่นเป็นสิ่งสำคัญ

• การใช้คำฟุ่มเฟือย: หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์ที่ไม่จำเป็นและซ้ำซ้อน ให้เน้นความชัดเจนและกระชับ

• การขาดความเชื่อมโยงกับงาน: Career Objective ควรเชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่คุณกำลังสมัคร แสดงให้เห็นว่าประสบการณ์และทักษะของคุณสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในตำแหน่งนั้นได้อย่างไร

แนวทางการเขียนที่แนะนำ

1. ระบุตำแหน่งงานที่ต้องการอย่างชัดเจน: ระบุตำแหน่งงานอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา เช่น “ผู้จัดการฝ่ายขาย”, “นักพัฒนาเว็บ”, หรือ “วิศวกรซอฟต์แวร์”

2. เน้นทักษะและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง: ระบุทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นต่อตำแหน่งงานนั้นๆ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องที่คุณมี เช่น “ประสบการณ์ 3 ปีในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ”, “ความเชี่ยวชาญในการใช้โปรแกรม Photoshop”

3. แสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนา: บอกนายจ้างว่าคุณมีเป้าหมายในอาชีพที่ชัดเจนและพร้อมที่จะพัฒนาความสามารถของคุณต่อไป เช่น “มุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้และทักษะในการบริหารจัดการโครงการ”

4. ระบุความต้องการและเป้าหมายการเติบโตของคุณ: ให้ภาพรวมเกี่ยวกับสิ่งที่คุณมองหาในตำแหน่งงานนั้นๆ เช่น “ต้องการที่จะทำงานในบริษัทที่เน้นนวัตกรรม” หรือ “ต้องการที่จะพัฒนาและเติบโตในด้านการตลาดดิจิทัลให้ก้าวหน้าขึ้น”

ตัวอย่าง:

• ไม่ดี: ต้องการตำแหน่งงานที่ท้าทายและมีประสบการณ์

• ดีกว่า: แสวงหาตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายเพื่อนำประสบการณ์ 5 ปีในการพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นไปอีกในบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การเขียน Career Objective ที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการสัมภาษณ์ และในท้ายที่สุดก็คือการได้รับตำแหน่งงานที่คุณต้องการ