OJT กับ Training ต่างกันอย่างไร
OJT เหนือกว่า Training ตรงที่ประหยัดงบประมาณและเวลา เพราะเป็นการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการทำงานจริง โดยไม่ต้องจ้างวิทยากรหรือจัดหาสถานที่พิเศษ พนักงานใหม่สามารถเริ่มทำงานได้ทันทีระหว่างฝึกอบรม สร้างผลผลิตไปพร้อมกับการพัฒนาทักษะ เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร
OJT กับ Training: เส้นทางสู่การพัฒนาบุคลากรที่ไม่เหมือนกัน
ในโลกของการพัฒนาบุคลากร องค์กรต่างๆ มักเผชิญกับคำถามสำคัญ: จะพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด? หนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมคือการฝึกอบรม (Training) และการสอนงานจริง (On-the-Job Training หรือ OJT) แม้ทั้งสองวิธีจะมีเป้าหมายเดียวกันคือการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน แต่แนวทางและผลลัพธ์ที่ได้กลับแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
บทความนี้จะเจาะลึกถึงความแตกต่างระหว่าง OJT และ Training โดยเน้นย้ำถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี เพื่อให้องค์กรสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด
Training: การเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมจำลอง
Training หรือ การฝึกอบรม หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ที่ถูกออกแบบมาอย่างเป็นระบบ มักดำเนินการในสภาพแวดล้อมที่แยกต่างหากจากการทำงานจริง อาจเป็นการเรียนในห้องเรียน การเข้าร่วมเวิร์คช็อป หรือการเรียนรู้ออนไลน์
-
ข้อดีของ Training:
- โครงสร้างที่ชัดเจน: Training มักมีหลักสูตรและเนื้อหาที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน ครอบคลุมหัวข้อที่ต้องการพัฒนาอย่างครบถ้วน
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง: สามารถเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่
- สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้: ผู้เรียนสามารถมุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับภาระงานประจำ
- การวัดผลที่ง่าย: สามารถประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เข้าอบรมได้อย่างเป็นระบบ ผ่านการสอบ การทำแบบฝึกหัด หรือการนำเสนอผลงาน
-
ข้อเสียของ Training:
- ค่าใช้จ่ายที่สูง: การจัด Training อาจมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าวิทยากร ค่าสถานที่ ค่าเอกสารประกอบการอบรม และค่าเสียเวลาที่พนักงานต้องหยุดงาน
- ขาดความเชื่อมโยงกับงานจริง: เนื้อหาที่เรียนรู้อาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงในการทำงาน ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การปรับตัวที่ต้องใช้เวลา: หลังจาก Training ผู้เรียนต้องใช้เวลาในการปรับตัวและทำความเข้าใจว่าความรู้ที่ได้รับจะนำไปปรับใช้กับการทำงานจริงได้อย่างไร
OJT: การเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง
On-the-Job Training (OJT) หรือ การสอนงานจริง คือ กระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นขณะที่พนักงานกำลังปฏิบัติงานจริง โดยมีพี่เลี้ยง (Mentor) หรือหัวหน้างานคอยให้คำแนะนำและสอนงานอย่างใกล้ชิด
-
ข้อดีของ OJT:
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจ้างวิทยากรหรือจัดหาสถานที่อบรม
- เชื่อมโยงกับงานจริง: ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานโดยตรง ทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที
- เรียนรู้จากประสบการณ์: ผู้เรียนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นในการทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ Training ไม่สามารถมอบให้ได้
- สร้างความผูกพันกับองค์กร: OJT ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานใหม่กับพี่เลี้ยงและเพื่อนร่วมงาน ทำให้พนักงานใหม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
-
ข้อเสียของ OJT:
- คุณภาพขึ้นอยู่กับพี่เลี้ยง: คุณภาพของการสอนงานขึ้นอยู่กับความสามารถและทักษะของพี่เลี้ยง หากพี่เลี้ยงไม่มีความเชี่ยวชาญหรือไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ดี อาจส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ของพนักงานใหม่
- ขาดโครงสร้างที่ชัดเจน: OJT อาจไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจน ทำให้ผู้เรียนไม่แน่ใจว่าควรเรียนรู้อะไรก่อนหลัง
- อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน: การสอนงานอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงชั่วคราว เนื่องจากพี่เลี้ยงต้องเสียเวลาในการสอนงาน
OJT เหนือกว่า Training ในแง่ของการประหยัดงบประมาณและเวลา?
แม้ว่า OJT จะมีข้อดีในเรื่องของการประหยัดงบประมาณและเวลา ดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่ไม่ได้หมายความว่า OJT จะเหนือกว่า Training ในทุกกรณี การเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ลักษณะของงาน ทักษะที่ต้องการพัฒนา และงบประมาณที่มี
ในบางกรณี การผสมผสานระหว่าง OJT และ Training อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น พนักงานใหม่สามารถเข้าร่วม Training เพื่อเรียนรู้พื้นฐานของงานก่อน แล้วจึงค่อยเข้าสู่กระบวนการ OJT เพื่อฝึกฝนทักษะที่จำเป็นในการทำงานจริง
สรุป:
ทั้ง OJT และ Training ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาบุคลากร การเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ องค์กรควรพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธีอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด เพื่อให้พนักงานได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสม และองค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ผ่าน Training หรือ OJT การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
#Ojt#การฝึกงาน#ฝึกอบรมข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต