U/C คือการตรวจอะไร

3 การดู

การตรวจเพาะเชื้อปัสสาวะ (Urine Culture, U/C) ช่วยระบุชนิดแบคทีเรียที่ก่อโรคในระบบทางเดินปัสสาวะ และทดสอบความไวต่อยาปฏิชีวนะ ข้อมูลนี้สำคัญต่อการเลือกยาที่เหมาะสมและรักษาให้หายขาด แนะนำให้ทำการตรวจก่อนใช้ยาปฏิชีวนะ เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุดและลดโอกาสการดื้อยา

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

การตรวจเพาะเชื้อปัสสาวะ (Urine Culture หรือ U/C)

การตรวจเพาะเชื้อปัสสาวะ (U/C) เป็นการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ช่วยระบุชนิดของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และตรวจสอบความไวของแบคทีเรียต่อยาปฏิชีวนะชนิดต่างๆ

ขั้นตอนการเก็บตัวอย่างปัสสาวะ

การเก็บปัสสาวะสำหรับการตรวจเพาะเชื้อปัสสาวะมีขั้นตอนดังนี้:

  1. ผู้ป่วยจะได้รับชุดเก็บตัวอย่างปัสสาวะ ซึ่งประกอบด้วยหลอดปัสสาวะที่ปลอดเชื้อและผ้าเช็ดทำความสะอาด
  2. ผู้ป่วยควรล้างมือให้สะอาดและทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดที่ให้มา
  3. เริ่มปัสสาวะแล้วหยุดกลางคัน จากนั้นจึงเก็บปัสสาวะช่วงกลางของการปัสสาวะลงในหลอดปัสสาวะ
  4. ปิดฝาหลอดปัสสาวะให้แน่นและนำไปส่งห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อ

การตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย

เมื่อได้รับตัวอย่างปัสสาวะในห้องปฏิบัติการแล้ว นักเทคนิคจะนำตัวอย่างไปปั่นแยก โดยปัสสาวะส่วนใสจะถูกนำไปเพาะลงบนอาหารเลี้ยงเชื้อชนิดต่างๆ หากมีแบคทีเรียอยู่ในปัสสาวะ แบคทีเรียจะเจริญเติบโตบนอาหารเลี้ยงเชื้อและก่อตัวเป็นโคโลนี

การทดสอบความไวต่อยาปฏิชีวนะ

เมื่อทราบชนิดของแบคทีเรียแล้ว นักเทคนิคจะทำการทดสอบความไวของแบคทีเรียต่อยาปฏิชีวนะชนิดต่างๆ โดยการวางแผ่นกระดาษซับที่ชุบยาปฏิชีวนะชนิดต่างๆ ลงบนจานเพาะเชื้อที่มีย่อแบคทีเรีย หากแบคทีเรียมีความไวต่อยาปฏิชีวนะชนิดใด จะเกิดวงยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียรอบๆ แผ่นกระดาษซับ

ความสำคัญของการตรวจเพาะเชื้อปัสสาวะ

การตรวจเพาะเชื้อปัสสาวะมีความสำคัญอย่างมากเพราะจะช่วย:

  • ระบุชนิดของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ
  • ทราบความไวของแบคทีเรียต่อยาปฏิชีวนะชนิดต่างๆ
  • ช่วยให้แพทย์เลือกยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการรักษา
  • ลดโอกาสการดื้อยาของแบคทีเรีย

การตรวจเพาะเชื้อปัสสาวะเป็นการตรวจที่จำเป็นสำหรับผู้ที่มีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมีกลิ่นแรง หรือปัสสาวะขุ่น เพื่อให้การรักษาได้ผลดีที่สุดและรวดเร็วที่สุด