ขอประวัติการรักษา กี่บาท

ขอประวัติการรักษา: เรื่องง่ายๆ ที่คุณควรรู้

การเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นเรื่องสำคัญ และการมีประวัติการรักษาไว้ครอบครองก็มีความจำเป็นไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการติดตามผลการรักษา การใช้ประโยชน์จากข้อมูลสุขภาพส่วนตัว หรือแม้แต่การเบิกค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกัน ดังนั้น การทราบขั้นตอนการขอประวัติการรักษาจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำความเข้าใจ

บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการขอประวัติการรักษาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยจะเน้นไปที่การขอประวัติการรักษาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว และเพื่อป้องกันความสับสน บทความนี้จะไม่กล่าวถึงวิธีการขอประวัติการรักษาทางออนไลน์หรือผ่านช่องทางอื่นๆ เน้นเฉพาะการติดต่อขอรับเอกสารด้วยตนเองที่โรงพยาบาล

ขั้นตอนการขอประวัติการรักษาด้วยตนเอง

สำหรับการขอประวัติการรักษาด้วยตนเอง โดยทั่วไปแล้ว คุณสามารถติดต่อแผนกเวชระเบียนของโรงพยาบาลที่คุณเคยเข้ารับการรักษาได้โดยตรง โดยเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:

1. บัตรประชาชนตัวจริง: ใช้เพื่อยืนยันตัวตนของคุณ เพื่อความถูกต้องและความปลอดภัยของข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล
2. สำเนาทะเบียนบ้าน: เป็นเอกสารประกอบการยืนยันที่อยู่และตัวตนของคุณ
3. ค่าธรรมเนียม: ตามที่โรงพยาบาลกำหนด ซึ่งในกรณีนี้คือ 300 บาท (โปรดทราบว่าค่าธรรมเนียมนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาล จึงควรตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลโดยตรงก่อนไปติดต่อ)

หมายเหตุ: คุณอาจต้องแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เข้ารับการรักษา หรือหมายเลขประจำตัวผู้ป่วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ค้นหาประวัติการรักษาของคุณได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การเตรียมข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้จะช่วยประหยัดเวลาของคุณได้

คำแนะนำเพิ่มเติม:

• ควรโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดกับทางโรงพยาบาลก่อนไป เพื่อความแน่ใจในเรื่องเวลาทำการ ขั้นตอนการขอรับเอกสาร และค่าธรรมเนียมที่แน่นอน
• เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันการเสียเวลาในการเดินทางไป-กลับ
• สอบถามเกี่ยวกับระยะเวลาในการจัดทำประวัติการรักษา เพื่อวางแผนการใช้เอกสารได้อย่างเหมาะสม

การขอประวัติการรักษาเป็นสิทธิของคุณ และการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปติดต่อจะช่วยให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และคุณจะได้รับประวัติการรักษาอย่างถูกต้องและครบถ้วน เพื่อประโยชน์ในการดูแลสุขภาพของคุณต่อไป