ทำเด็กหลอดแก้วราคาเท่าไร

เด็กหลอดแก้ว ICSI: เจาะลึกค่าใช้จ่ายและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา

การมีบุตรเป็นความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของหลายคู่รัก แต่ในบางครั้งธรรมชาติอาจไม่ได้เป็นใจ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยเฉพาะวิธี ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ซึ่งเป็นการฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง จึงกลายเป็นความหวังสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก

บทความนี้จะเจาะลึกถึงค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI ในประเทศไทย โดยจะอธิบายถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่ส่งผลต่อราคา เพื่อให้คุณสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างรอบคอบ

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI:

โดยทั่วไปแล้ว การทำเด็กหลอดแก้ว ICSI จะมีค่าใช้จ่ายโดยรวมประมาณ 454,000 – 630,000 บาท ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นค่าใช้จ่ายของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ดังนี้:

• ค่าใช้จ่ายฝั่งคุณแม่: ประมาณ 430,000 – 600,000 บาท
• ค่าใช้จ่ายฝั่งคุณพ่อ: ประมาณ 24,000 – 30,000 บาท

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่าย:

ค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI ไม่ได้ตายตัว แต่จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้:

1. ยาที่ใช้และปริมาณยา: ยาที่ใช้ในการกระตุ้นไข่เป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อค่าใช้จ่ายอย่างมาก ยาแต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกัน และปริมาณยาที่ต้องใช้ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ และการตอบสนองต่อยาของคุณแม่

2. จำนวนครั้งที่พบแพทย์: การทำเด็กหลอดแก้ว ICSI ต้องมีการพบแพทย์หลายครั้งเพื่อติดตามผลการรักษา การตรวจเลือด การอัลตราซาวด์ และการทำหัตถการต่างๆ จำนวนครั้งในการพบแพทย์ที่มากขึ้น ย่อมส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามไปด้วย

3. ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้วเพิ่มเติม: นอกเหนือจากขั้นตอนหลักของการทำ ICSI แล้ว อาจจำเป็นต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติม เช่น:

   • การแช่แข็งไข่ (Egg Freezing): หากมีไข่เหลือหลังจากทำการผสมแล้ว สามารถแช่แข็งไว้ใช้ในอนาคตได้
   • การตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนการฝังตัว (Preimplantation Genetic Testing – PGT): เป็นการตรวจความผิดปกติของโครโมโซมในตัวอ่อนก่อนที่จะทำการฝังตัว เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์และลดความเสี่ยงของโรคทางพันธุกรรม
   • การฉีดเยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาตัว (Endometrial Scratching): เป็นการทำให้เกิดรอยขีดข่วนเล็กๆ บนเยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีความพร้อมในการฝังตัวของตัวอ่อน

4. คลินิกหรือโรงพยาบาลที่เลือก: สถานพยาบาลแต่ละแห่งมีค่าบริการที่แตกต่างกันไป การเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง มีประสบการณ์ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า แต่ก็อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้

5. สุขภาพโดยรวมของคู่รัก: สุขภาพโดยรวมของทั้งคุณแม่และคุณพ่อมีผลต่อการวางแผนการรักษาและค่าใช้จ่าย หากมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ต้องได้รับการรักษาควบคู่กันไป ก็อาจส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

ค่าใช้จ่ายโดยละเอียด (โดยประมาณ):

เพื่อให้เห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นี่คือตัวอย่างค่าใช้จ่ายโดยละเอียด (โปรดทราบว่าตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงค่าประมาณ):

• ค่าปรึกษาแพทย์: 500 – 3,000 บาท/ครั้ง
• ค่าตรวจสุขภาพและฮอร์โมน: 5,000 – 15,000 บาท
• ค่ายากระตุ้นไข่: 50,000 – 150,000 บาท
• ค่าเก็บไข่: 20,000 – 40,000 บาท
• ค่า ICSI: 30,000 – 50,000 บาท
• ค่าเลี้ยงตัวอ่อน: 20,000 – 40,000 บาท
• ค่าใส่ตัวอ่อน: 15,000 – 30,000 บาท
• ค่าแช่แข็งตัวอ่อน (ถ้ามี): 15,000 – 30,000 บาท/ปี
• ค่าตรวจโครโมโซมตัวอ่อน (ถ้ามี): 50,000 – 100,000 บาท/ตัวอ่อน
• ค่าใช้จ่ายฝั่งคุณพ่อ (ค่าตรวจอสุจิ, ค่าเตรียมอสุจิ): 24,000 – 30,000 บาท

คำแนะนำเพิ่มเติม:

• ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์เพื่อประเมินสภาพร่างกายและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ
• เปรียบเทียบราคา: สอบถามค่าใช้จ่ายจากคลินิกหรือโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อเปรียบเทียบราคาและบริการ
• ตรวจสอบสิทธิประกัน: ตรวจสอบสิทธิประกันสุขภาพของคุณว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้วหรือไม่
• วางแผนการเงิน: วางแผนการเงินอย่างรอบคอบและเตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

การทำเด็กหลอดแก้ว ICSI เป็นกระบวนการที่มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็เป็นความหวังสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก การทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายและการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการมีบุตรได้สำเร็จ