เงินผู้ สูงอายุ 3 000 ได้ วันไหน

2 การดู

ข่าวลือเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพิ่ม 3,000 บาทนั้นไม่เป็นความจริง กรมกิจการผู้สูงอายุยืนยันว่ายังไม่มีนโยบายปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพในขณะนี้ ข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้อง โปรดตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ทางการของกรมกิจการผู้สูงอายุ ก่อนแชร์ต่อ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

หยุดแชร์! ข่าวลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 3,000 บาท: ความจริงที่ต้องรู้

ท่ามกลางกระแสข่าวสารที่ถาโถมเข้ามาในโลกออนไลน์ หนึ่งในข่าวที่สร้างความสับสนและก่อให้เกิดความหวังลมๆ แล้งๆ ในหมู่ผู้สูงอายุคือข่าวเรื่อง “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพิ่มเป็น 3,000 บาท” ซึ่งกำลังแพร่หลายอย่างรวดเร็ว

ขอเน้นย้ำ ณ ที่นี้ว่า: ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด!

กรมกิจการผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ได้ออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า ยังไม่มีนโยบายในการปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เป็น 3,000 บาท ในขณะนี้

การแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเช่นนี้ สร้างความเข้าใจผิดและความคาดหวังที่เกินจริงให้กับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ความผิดหวังและความเสียใจในภายหลัง

ทำไมข่าวลือนี้ถึงเกิดขึ้น และทำไมเราต้องระวัง?

  • ต้นตอของข่าวลือ: มักมาจากแหล่งข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือ ขาดการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือจงใจสร้างข่าวปลอม (Fake News) เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง
  • ผลกระทบ: สร้างความสับสน ทำให้ผู้สูงอายุและครอบครัวเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ ทำให้เกิดความคาดหวังที่ไม่เป็นจริง และอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด
  • การป้องกัน: ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือเสมอ ก่อนที่จะเชื่อหรือแชร์ต่อ เช่น เว็บไซต์ทางการของกรมกิจการผู้สูงอายุ (dop.go.th), หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง, หรือสื่อมวลชนกระแสหลักที่น่าเชื่อถือ

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ณ ปัจจุบัน:

ปัจจุบัน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุยังคงจ่ายตามอัตราเดิม ซึ่งเป็นไปตามช่วงอายุ ดังนี้:

  • อายุ 60-69 ปี: 600 บาทต่อเดือน
  • อายุ 70-79 ปี: 700 บาทต่อเดือน
  • อายุ 80-89 ปี: 800 บาทต่อเดือน
  • อายุ 90 ปีขึ้นไป: 1,000 บาทต่อเดือน

สิ่งที่ควรทำเมื่อพบข่าวลือ:

  1. อย่าเพิ่งเชื่อ: ตั้งสติและอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็นหรือได้ยินทันที
  2. ตรวจสอบแหล่งข่าว: แหล่งข่าวมีความน่าเชื่อถือหรือไม่? มีการอ้างอิงถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่?
  3. ตรวจสอบข้อมูล: เปรียบเทียบข้อมูลจากหลายแหล่ง หากข้อมูลขัดแย้งกัน ให้สงสัยไว้ก่อน
  4. อย่าแชร์ต่อ: หากไม่แน่ใจในความถูกต้อง อย่าแชร์ข้อมูลนั้นต่อ เพราะอาจเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยไม่รู้ตัว
  5. แจ้งเตือนผู้อื่น: หากพบว่ามีคนแชร์ข่าวลือ ให้แจ้งเตือนและแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูล

ข้อความสำคัญ:

ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและความผิดหวังที่อาจเกิดขึ้น และร่วมกันหยุดยั้งการแพร่กระจายของข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง

เราทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมแห่งข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้