Plan มี S ไหม

4 การดู

คำแนะนำ: เมื่อใช้ plan กับบุรุษที่ 3 เอกพจน์ (เช่น he, she, it) กริยา plan ต้องเติม -s เพื่อให้สอดคล้องกับกฎไวยากรณ์ เช่น He plans to go. ไม่ใช่ He plan to go.

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

Plan มี S หรือไม่? : ความลับเล็กๆ ของกริยาภาษาอังกฤษ

คำถาม seemingly ธรรมดาอย่าง “Plan มี S หรือไม่?” กลับซ่อนความรู้พื้นฐานสำคัญของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเอาไว้ คำตอบไม่ใช่ใช่หรือไม่ใช่แบบตรงไปตรงมา แต่ขึ้นอยู่กับบริบทและประโยคที่ใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ภาษาอังกฤษน่าเรียนรู้และท้าทายไปพร้อมๆ กัน

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้คำว่า “plan” เกี่ยวข้องกับการเติม “-s” หรือไม่เติม ซึ่งขึ้นอยู่กับกริยาหลัก (verb) และประธาน (subject) ในประโยค

เมื่อไรที่ Plan ต้องเติม S?

กฎที่สำคัญที่สุดคือเมื่อประธานของประโยคเป็นบุรุษที่ 3 เอกพจน์ (he, she, it, หรือคำนามเอกพจน์) เราต้องเติม “-s” ลงท้ายกริยา “plan” เพื่อให้สอดคล้องกับกฎไวยากรณ์ ตัวอย่างเช่น:

  • He plans to visit his grandparents next week. (เขาวางแผนจะไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าสัปดาห์หน้า)
  • She plans to open a new bakery in town. (เธาวางแผนจะเปิดร้านเบเกอรี่ใหม่ในเมือง)
  • The dog plans to bury its bone. (หมาตัวนั้นวางแผนจะฝังกระดูกของมัน)

ในตัวอย่างข้างต้น ประธานคือ “he,” “she,” และ “the dog” ซึ่งเป็นบุรุษที่ 3 เอกพจน์ ดังนั้น เราจึงต้องเติม “-s” ลงท้ายกริยา “plan” กลายเป็น “plans”

เมื่อไรที่ Plan ไม่ต้องเติม S?

ในทางกลับกัน หากประธานของประโยคเป็นบุรุษที่ 1 เอกพจน์ (I), บุรุษที่ 2 เอกพจน์ (you), บุรุษที่ 1 พหูพจน์ (we), บุรุษที่ 2 พหูพจน์ (you), หรือบุรุษที่ 3 พหูพจน์ (they) เราจะไม่เติม “-s” ลงท้ายกริยา “plan” ตัวอย่างเช่น:

  • I plan to finish my project by tomorrow. (ฉันวางแผนจะเสร็จงานของฉันภายในวันพรุ่งนี้)
  • You plan to go to the beach this weekend, don’t you? (คุณวางแผนจะไปทะเลช่วงสุดสัปดาห์นี้ใช่ไหม?)
  • We plan to have a party next month. (เราวางแผนจะจัดงานเลี้ยงเดือนหน้า)
  • They plan to travel around Europe. (พวกเขาวางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรป)

สรุปแล้ว คำว่า “plan” จะเติม “-s” หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประธานของประโยค เป็นหลักการง่ายๆ แต่สำคัญอย่างยิ่งในการเขียนและพูดภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ จะช่วยพัฒนาความสามารถทางภาษาอังกฤษของเราได้อย่างมาก และช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจได้ง่ายขึ้น