ค่าเลือดจาง ดูยังไง

0 การดู

สงสัยว่าคุณอาจกำลังมีภาวะโลหิตจาง? ลองสังเกตอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หน้ามืด หรือใจสั่น หากสงสัย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ในเลือด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของภาวะนี้ ผู้หญิงควรมีค่าฮีโมโกลบินมากกว่า 12 g/dL และผู้ชายมากกว่า 13 g/dL ค่ะ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภาวะโลหิตจาง: มองหาสัญญาณเตือนและเข้าใจค่าเลือด

ภาวะโลหิตจาง หรือที่เรามักเรียกกันติดปากว่า “เลือดจาง” เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการผิดปกติหลายอย่างตามมา ภาวะนี้เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย และอาจมีสาเหตุได้หลากหลาย ตั้งแต่การขาดสารอาหารที่จำเป็น ไปจนถึงโรคเรื้อรังต่างๆ

การสังเกตอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้เราตระหนักถึงความผิดปกติและเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ได้ทันท่วงที อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยภาวะโลหิตจางอย่างแม่นยำ จำเป็นต้องอาศัยการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจน

สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต:

แม้ว่าอาการของภาวะโลหิตจางอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปมักมีอาการดังนี้:

  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย: เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้เซลล์ไม่สามารถสร้างพลังงานได้อย่างเต็มที่
  • หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ: การที่สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ หรือคล้ายจะเป็นลมได้
  • ใจสั่น: ร่างกายพยายามชดเชยปริมาณออกซิเจนที่ไม่เพียงพอ โดยการสูบฉีดเลือดให้เร็วขึ้น ทำให้เกิดอาการใจสั่น
  • ผิวซีด: ผิวหนัง ริมฝีปาก และเล็บ อาจมีสีซีดกว่าปกติ เนื่องจากปริมาณเม็ดเลือดแดงที่ลดลง
  • หายใจถี่: ร่างกายพยายามดึงออกซิเจนให้มากขึ้น ทำให้เกิดอาการหายใจถี่ แม้ในขณะที่พักผ่อน
  • มือเท้าเย็น: การไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดี อาจทำให้รู้สึกเย็นที่มือและเท้า
  • ปวดศีรษะ: การที่สมองขาดออกซิเจนอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้
  • เล็บเปราะบาง: การขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลหิตจาง อาจทำให้เล็บเปราะบางและแตกหักง่าย
  • อยากกินของแปลกๆ (Pica): ในบางกรณี ผู้ที่เป็นโลหิตจางอาจมีความอยากกินของแปลกๆ เช่น ดิน น้ำแข็ง หรือแป้ง

เข้าใจค่าเลือด: ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin)

การตรวจวัดระดับฮีโมโกลบินในเลือด (Hemoglobin; Hb) เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการวินิจฉัยภาวะโลหิตจาง ค่าฮีโมโกลบินที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปตามเพศและอายุ โดยทั่วไปมีเกณฑ์ดังนี้:

  • ผู้หญิง: มากกว่า 12 กรัมต่อเดซิลิตร (g/dL)
  • ผู้ชาย: มากกว่า 13 กรัมต่อเดซิลิตร (g/dL)

สิ่งที่ควรทำเมื่อสงสัยว่ามีภาวะโลหิตจาง:

หากคุณสังเกตเห็นอาการดังกล่าวข้างต้น หรือมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะโลหิตจาง สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และสั่งตรวจเลือดเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุของภาวะโลหิตจาง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การรักษาภาวะโลหิตจาง:

การรักษาภาวะโลหิตจางจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของภาวะนั้นๆ โดยอาจรวมถึง:

  • การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง: เช่น ตับ เนื้อแดง ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว และธัญพืชเสริมธาตุเหล็ก
  • การรับประทานวิตามินเสริม: เช่น วิตามินบี 12 และกรดโฟลิก หากขาดวิตามินเหล่านี้
  • การรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ: หากภาวะโลหิตจางเกิดจากโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต หรือโรคเกี่ยวกับไขกระดูก
  • การถ่ายเลือด: ในกรณีที่ภาวะโลหิตจางรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต

ข้อควรจำ:

  • อย่าเพิกเฉยต่ออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย
  • การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อตรวจหาความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การตระหนักถึงสัญญาณเตือนของภาวะโลหิตจาง และเข้าใจความหมายของค่าเลือด จะช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างเหมาะสม และรับการรักษาได้อย่างทันท่วงที เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว