จํา เรียง ภาษาอังกฤษ เขียน ยัง ไง

23 การดู
วิธีจำการเรียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษคือใช้หลักการ OSASCOMP (Opinion, Size, Age, Shape, Color, Origin, Material, Purpose) ลองนึกภาพสิ่งของแล้วเรียงตามนี้ เช่น a beautiful small old round red Italian leather handbag for work ฝึกบ่อยๆ แล้วจะจำได้เองโดยไม่ต้องท่อง!
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

จัดระเบียบความคิด คำศัพท์เรียงสวย: พิชิตไวยากรณ์อังกฤษด้วย OSASCOMP

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ นอกจากการฝึกพูด ฟัง อ่าน เขียน แล้ว ไวยากรณ์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ หนึ่งในอุปสรรคที่หลายคนมักพบเจอ คือ การเรียงลำดับคำคุณศัพท์อย่างถูกต้อง บ่อยครั้งที่เราสับสนว่าควรวางคำไหนไว้หน้าคำไหน ทำให้ประโยคฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! วันนี้เรามีเทคนิคเด็ดที่จะช่วยให้คุณจำการเรียงคำคุณศัพท์ภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำและไม่น่าเบื่อ นั่นคือหลักการ OSASCOMP

OSASCOMP ย่อมาจาก Opinion, Size, Age, Shape, Color, Origin, Material, และ Purpose ซึ่งเป็นลำดับการวางคำคุณศัพท์ที่ถูกต้องในภาษาอังกฤษ ลองจินตนาการถึงสิ่งของต่างๆ รอบตัวคุณ แล้วเรียงคำคุณศัพท์ตามหลักการนี้ ยกตัวอย่างเช่น a beautiful small old round red Italian leather handbag for work (กระเป๋าถือหนังสีแดงทรงกลมใบเล็กๆ สวยงามแบบอิตาลีสำหรับทำงาน)

มาดูกันว่าแต่ละตัวอักษรใน OSASCOMP หมายถึงอะไร และมีตัวอย่างประกอบอย่างไรบ้าง:

  • O – Opinion (ความคิดเห็น): เป็นคำที่แสดงความคิดเห็นหรือทัศนคติของผู้พูดต่อสิ่งของนั้นๆ เช่น beautiful, ugly, delicious, expensive, cheap, amazing, terrible เป็นต้น ตัวอย่าง: a delicious chocolate cake (เค้กช็อกโกแลตแสนอร่อย)

  • S – Size (ขนาด): เป็นคำที่บอกขนาดของสิ่งของ เช่น small, big, large, tiny, huge, giant เป็นต้น ตัวอย่าง: a small red car (รถสีแดงคันเล็ก)

  • A – Age (อายุ): เป็นคำที่บอกอายุของสิ่งของ เช่น old, new, young, ancient, modern, vintage เป็นต้น ตัวอย่าง: an old wooden chair (เก้าอี้ไม้ตัวเก่า)

  • Sh – Shape (รูปร่าง): เป็นคำที่บอกรูปร่างของสิ่งของ เช่น round, square, triangular, oval, rectangular เป็นต้น ตัวอย่าง: a round dining table (โต๊ะอาหารทรงกลม)

  • C – Color (สี): เป็นคำที่บอกสีของสิ่งของ เช่น red, blue, green, yellow, black, white, purple เป็นต้น ตัวอย่าง: a red sports car (รถสปอร์ตสีแดง)

  • O – Origin (ที่มา/แหล่งกำเนิด): เป็นคำที่บอกที่มาหรือแหล่งกำเนิดของสิ่งของ เช่น Italian, French, Thai, American, Japanese เป็นต้น ตัวอย่าง: Italian leather shoes (รองเท้าหนังอิตาลี)

  • M – Material (วัสดุ): เป็นคำที่บอกวัสดุที่ใช้ทำสิ่งของนั้นๆ เช่น wooden, leather, metal, plastic, cotton, silk เป็นต้น ตัวอย่าง: a wooden dining table (โต๊ะอาหารไม้)

  • P – Purpose (วัตถุประสงค์): เป็นคำที่บอกวัตถุประสงค์หรือการใช้งานของสิ่งของ เช่น cooking, sleeping, reading, working, gardening เป็นต้น ตัวอย่าง: a gardening tool (เครื่องมือทำสวน)

การใช้หลักการ OSASCOMP นี้จะช่วยให้คุณเรียงคำคุณศัพท์ได้อย่างถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ทำให้ประโยคที่คุณสร้างขึ้นมีความชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น แม้ในตอนแรกอาจจะดูเหมือนยากและต้องจำเยอะ แต่เมื่อฝึกฝนบ่อยๆ คุณจะสามารถเรียงคำคุณศัพท์ได้อย่างเป็นอัตโนมัติโดยไม่ต้องท่องจำอีกต่อไป ลองฝึกสร้างประโยคบรรยายสิ่งของต่างๆ รอบตัวคุณโดยใช้หลักการ OSASCOMP ดู ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ ความเข้าใจและความแม่นยำในการเรียงคำคุณศัพท์ของคุณก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น

อย่าลืมว่าการเรียนรู้ภาษาต้องอาศัยความสม่ำเสมอ ฝึกฝนการใช้ OSASCOMP ในการเรียงคำคุณศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหรือการพูด และอย่ากลัวที่จะทำผิดพลาด เพราะความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เมื่อคุณฝึกฝนมากขึ้น ความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษของคุณก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และในที่สุด คุณก็จะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติ.