ทำยังไงให้หายง่วงตอนบ่าย

สู้ความง่วงยามบ่าย: เทคนิคพิชิตอาการเซื่องซึมแบบไม่ง้อกาแฟ

บ่ายแก่ๆ แดดร่มลมตก หลายคนเริ่มรู้สึกหนังท้องตึงหนังตาหย่อน อาการง่วงซึมเข้าครอบงำ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง กาแฟอาจเป็นทางเลือกแรกที่หลายคนนึกถึง แต่การดื่มกาแฟมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ แล้วเราจะทำอย่างไรให้หายง่วงตอนบ่ายโดยไม่ต้องพึ่งกาแฟ? บทความนี้มีคำตอบ

นอกจากการจิบชาสมุนไพรอุ่นๆ ที่มีกลิ่นหอมละมุนช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้า และคาเฟอีนธรรมชาติในปริมาณน้อยช่วยปลุกความกระปรี้กระเปร่าโดยไม่รบกวนการนอนหลับตอนกลางคืนแล้ว เรายังมีเทคนิคอื่นๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้:

• ปรับเปลี่ยนบรรยากาศ: ลองเปลี่ยนอิริยาบถ ลุกขึ้นเดิน ยืดเส้นยืดสาย หรือเปลี่ยนไปทำงานในมุมอื่นของออฟฟิศที่มีแสงสว่างเพียงพอ การเปลี่ยนบรรยากาศแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยกระตุ้นความสดชื่นได้
• แสงแดดคือเพื่อน: ออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ สัก 10-15 นาที แสงแดดช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งมีผลต่อการควบคุมวงจรการนอนหลับ ทำให้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้น
• เติมพลังด้วยอาหารเบาๆ: เลือกทานอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช หรือโยเกิร์ต หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้รู้สึกง่วงนอนมากขึ้นหลังจากที่น้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว
• พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน: การพูดคุยสั้นๆ กับเพื่อนร่วมงานหรือโทรหาคนรู้จัก สามารถช่วยเบรกความง่วงและเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้
• ฝึกหายใจลึกๆ: การหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ และหายใจออกยาวๆ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือดและสมอง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและตื่นตัวขึ้น
• ฟังเพลงจังหวะสนุกสนาน: เพลงที่มีจังหวะ upbeat สามารถกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกกระฉับกระเฉง เลือกเพลงที่คุณชอบและทำให้รู้สึกมีพลัง
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ร่างกายที่ขาดน้ำจะทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและง่วงนอนได้ ควรจิบน้ำเปล่าตลอดทั้งวันเพื่อรักษาความสดชื่น
• งีบหลับสั้นๆ: หากเป็นไปได้ ลองงีบหลับสั้นๆ ประมาณ 15-20 นาที การงีบหลับในช่วงเวลาสั้นๆ จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ แต่ควรระวังไม่ให้นานเกินไป เพราะอาจทำให้รู้สึกงัวเงียได้

การง่วงนอนในตอนบ่ายเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อค้นหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด และบอกลาอาการง่วงซึม พร้อมกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง