เด็กพูดเร็วสุดเมื่ออายุประมาณกี่เดือน

2 การดู

เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการด้านภาษาแตกต่างกัน โดยทั่วไปเด็กจะเริ่มพูดคำที่มีความหมายได้ในช่วง 12-18 เดือน ก่อนหน้านี้ เด็กอายุ 3-6 เดือนจะเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ และเมื่ออายุ 6-9 เดือนจะเริ่มเข้าใจชื่อของตนเองได้ พ่อแม่ควรสังเกตพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไขข้อสงสัย: ลูกน้อยจะเริ่มพูดเจื้อยแจ้วเมื่อไหร่? สำรวจเส้นทางพัฒนาการทางภาษาของลูกรัก

การได้ยินเสียงลูกน้อยเปล่งคำแรกออกมา ถือเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษและน่าประทับใจสำหรับพ่อแม่ทุกคน อย่างไรก็ตาม พัฒนาการด้านภาษาของเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป ทำให้พ่อแม่หลายท่านเกิดความกังวลใจว่าลูกของเราจะเริ่มพูดได้ช้าหรือเร็วกว่าเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปสำรวจเส้นทางพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อยอย่างละเอียด เพื่อคลายข้อสงสัยและเข้าใจถึงช่วงเวลาที่ลูกน้อยจะเริ่มพูดเจื้อยแจ้วได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

จากเสียงอ้อแอ้ สู่คำที่มีความหมาย: ลำดับขั้นพัฒนาการทางภาษา

ก่อนที่ลูกน้อยจะสามารถพูดเป็นคำที่มีความหมายได้นั้น พวกเขาต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะต่างๆ ทางภาษามาแล้วมากมาย ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นช่วงอายุโดยประมาณดังนี้:

  • 3-6 เดือน: ยุคแห่งการสำรวจเสียง: ในช่วงนี้ ลูกน้อยจะเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ (cooing) ซึ่งเป็นเสียงที่เกิดจากการผสมผสานของสระ เช่น “อา” “อู” “เอ” เป็นต้น นี่คือช่วงเวลาที่ลูกน้อยเริ่มสำรวจความสามารถในการออกเสียงของตนเอง และสนุกกับการตอบสนองต่อเสียงต่างๆ รอบตัว

  • 6-9 เดือน: เรียนรู้ชื่อตัวเองและการสื่อสารเบื้องต้น: เมื่อลูกน้อยอายุประมาณ 6-9 เดือน พวกเขาจะเริ่มเข้าใจความหมายของชื่อตัวเอง เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อ พวกเขาจะหันมองหรือแสดงท่าทีตอบสนอง นอกจากนี้ พวกเขายังเริ่มเลียนแบบเสียงที่ได้ยิน และพยายามสื่อสารด้วยการใช้ท่าทางร่วมกับเสียงต่างๆ

  • 12-18 เดือน: จุดเริ่มต้นของคำที่มีความหมาย: โดยทั่วไปแล้ว ลูกน้อยส่วนใหญ่จะเริ่มพูดคำที่มีความหมายได้ในช่วงอายุ 12-18 เดือน คำแรกๆ ที่ลูกน้อยมักจะพูดได้คือคำง่ายๆ ที่คุ้นเคย เช่น “แม่” “พ่อ” “หม่ำ” “ปา” เป็นต้น คำเหล่านี้มักจะเชื่อมโยงกับสิ่งที่พวกเขาสัมผัสหรือต้องการในชีวิตประจำวัน

ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว: ความหลากหลายในพัฒนาการทางภาษา

สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องตระหนักคือ พัฒนาการทางภาษาของเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน เด็กบางคนอาจจะเริ่มพูดได้เร็วกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ในขณะที่เด็กบางคนอาจจะใช้เวลามากกว่าเล็กน้อย หากลูกน้อยของคุณยังไม่เริ่มพูดเมื่ออายุ 18 เดือน ไม่ได้หมายความว่าพวกเขามีปัญหาด้านพัฒนาการเสมอไป ปัจจัยหลายอย่างสามารถส่งผลต่อพัฒนาการทางภาษาของเด็กได้ เช่น:

  • พันธุกรรม: ประวัติพัฒนาการทางภาษาของคนในครอบครัว อาจมีผลต่อพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อย
  • สภาพแวดล้อม: สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการพูดคุย การอ่านหนังสือ และการกระตุ้นทางภาษา จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี
  • สุขภาพโดยรวม: ปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน อาจส่งผลต่อพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อย

สิ่งที่พ่อแม่ทำได้: ส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อย

ถึงแม้ว่าพัฒนาการทางภาษาของเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่พ่อแม่สามารถมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อยได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้:

  • พูดคุยกับลูกน้อยบ่อยๆ: ไม่ว่าจะเป็นการเล่านิทาน ร้องเพลง หรือเพียงแค่บรรยายสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ การพูดคุยกับลูกน้อยบ่อยๆ จะช่วยให้พวกเขาได้ยินและเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ
  • อ่านหนังสือให้ลูกฟัง: การอ่านหนังสือให้ลูกฟังเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มพูนคำศัพท์ และกระตุ้นจินตนาการของลูกน้อย
  • ตอบสนองต่อการสื่อสารของลูกน้อย: เมื่อลูกน้อยพยายามสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นด้วยคำพูด ท่าทาง หรือเสียงต่างๆ พ่อแม่ควรให้ความสนใจและตอบสนองอย่างเหมาะสม การตอบสนองอย่างเข้าใจจะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกมั่นใจและกล้าที่จะสื่อสารมากขึ้น
  • เล่นเกมที่ส่งเสริมภาษา: มีเกมมากมายที่สามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อยได้ เช่น เกมทายคำ เกมจับคู่ภาพ หรือเกมเล่านิทาน

เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์:

หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อย ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก หากลูกน้อยของคุณ:

  • อายุ 18 เดือนแล้วยังไม่พูดคำที่มีความหมายเลย
  • อายุ 2 ขวบแล้วยังไม่สามารถพูดเป็นวลีสั้นๆ ได้
  • ไม่เข้าใจคำสั่งง่ายๆ
  • มีปัญหาในการสื่อสารกับผู้อื่น

การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณทราบถึงสาเหตุของปัญหา และได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมในการช่วยเหลือลูกน้อย

สรุป:

การเฝ้าดูพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อยเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและมีความหมาย การเข้าใจถึงลำดับขั้นพัฒนาการทางภาษา และปัจจัยที่ส่งผลต่อพัฒนาการทางภาษา จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถสนับสนุนลูกน้อยได้อย่างเหมาะสม และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ภาษาของลูกรักได้อย่างเต็มศักยภาพ