เทคนิค PAR มีอะไรบ้าง

2 การดู

PAR ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่เป็นปรัชญา! ลองมอง PAR ในฐานะกระบวนการสร้างความรู้ร่วมกัน โดยชุมชนเป็นผู้กำหนดทิศทางตั้งแต่ต้นจนจบ งานวิจัยจึงไม่ใช่แค่รายงาน แต่เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง เน้นการลงมือทำและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เทคนิค PAR: มากกว่าแค่เครื่องมือ… ปรัชญาแห่งการเปลี่ยนแปลงโดยชุมชน

Participatory Action Research (PAR) หรือ การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดเครื่องมือหรือวิธีการวิจัยที่นักวิชาการหยิบยืมมาใช้ แต่แท้จริงแล้ว PAR คือ ปรัชญา ที่มองว่าการสร้างความรู้และความเปลี่ยนแปลงต้องเกิดขึ้นจาก การมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงของชุมชน ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจนถึงการนำผลลัพธ์ไปใช้

หลายครั้งที่เราเห็นงานวิจัยที่มุ่งเน้นการเก็บข้อมูลจากชุมชนแล้วนำไปวิเคราะห์ในห้องแล็บ หรือนำเสนอในที่ประชุมวิชาการ โดยที่ชุมชนอาจไม่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดคำถามวิจัย หรือไม่ได้สัมผัสถึงประโยชน์ที่แท้จริงจากการวิจัยนั้น แต่ PAR กลับพลิกมุมมองนี้อย่างสิ้นเชิง โดยให้ความสำคัญกับ บทบาทของชุมชนในฐานะผู้รู้และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก ในทุกขั้นตอน

อะไรคือหัวใจสำคัญของเทคนิค PAR?

ถึงแม้ PAR จะเป็นปรัชญาที่กว้างขวาง แต่ก็มีเทคนิคและแนวทางปฏิบัติที่สำคัญหลายประการที่ทำให้ PAR แตกต่างและทรงพลัง:

  1. การสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจ: ก่อนที่จะเริ่มต้นการวิจัยใดๆ นักวิจัยจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน ทำความเข้าใจบริบททางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของชุมชน การฟังอย่างตั้งใจ และการแสดงความเคารพต่อภูมิปัญญาของชุมชนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

  2. การกำหนดปัญหาร่วมกัน: PAR เริ่มต้นด้วยการที่ชุมชนและนักวิจัยร่วมกันระบุปัญหาหรือประเด็นที่สำคัญและเร่งด่วนสำหรับชุมชน ปัญหานี้อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมของชุมชนในการกำหนดปัญหาจะทำให้งานวิจัยมีความเกี่ยวข้องและตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง

  3. การวางแผนการวิจัยร่วมกัน: เมื่อกำหนดปัญหาได้แล้ว ชุมชนและนักวิจัยจะร่วมกันวางแผนการวิจัย โดยกำหนดวัตถุประสงค์ วิธีการเก็บข้อมูล และวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล การตัดสินใจทั้งหมดจะต้องเกิดขึ้นจากการปรึกษาหารือและการมีส่วนร่วมของชุมชน

  4. การเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกัน: ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ การสังเกต หรือการสำรวจ นอกจากนี้ ชุมชนยังสามารถมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้เข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาและหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม

  5. การลงมือปฏิบัติและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: PAR ไม่ได้จบลงที่การเขียนรายงาน แต่เป็นการนำผลการวิจัยไปสู่การลงมือปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาที่ชุมชนเผชิญอยู่ การลงมือปฏิบัติอาจเป็นการจัดอบรม การรณรงค์ การเปลี่ยนแปลงนโยบาย หรือการสร้างโครงการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของชุมชน ที่สำคัญ PAR เน้นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประเมินผลการปฏิบัติงานและปรับปรุงแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

  6. การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน: เป้าหมายสูงสุดของ PAR คือการเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเองในระยะยาว PAR จึงไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างที่ยั่งยืน

PAR ต่างจากงานวิจัยทั่วไปอย่างไร?

คุณสมบัติ งานวิจัยทั่วไป PAR
จุดมุ่งหมาย สร้างความรู้ สร้างความรู้และการเปลี่ยนแปลง
ผู้กำหนดทิศทาง นักวิจัย ชุมชนและนักวิจัยร่วมกัน
บทบาทของชุมชน เป็นผู้ให้ข้อมูล เป็นผู้มีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
การนำผลไปใช้ ส่วนใหญ่นักวิจัย ชุมชนและนักวิจัยร่วมกัน
ความยั่งยืน อาจไม่เน้น เน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนเพื่อความยั่งยืน

สรุป:

PAR เป็นมากกว่าแค่เทคนิคการวิจัย แต่เป็น ปรัชญาแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแท้จริง PAR ช่วยให้ชุมชนสามารถกำหนดทิศทางของงานวิจัยและนำผลลัพธ์ไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนอย่างยั่งยืน การใช้เทคนิค PAR อย่างถูกต้องและเหมาะสมจะนำไปสู่การสร้างความรู้และความเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม