เอ็นขาดขยับได้ไหม

เอ็นขาด…ขยับได้ไหม? ความเข้าใจผิดและความจริงเกี่ยวกับการฟื้นฟู

คำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อประสบกับอาการเอ็นขาด คือ “เอ็นขาดแล้ว…ยังขยับได้ไหม?” คำตอบนั้นไม่ใช่แค่ “ได้” หรือ “ไม่ได้” แต่ซับซ้อนกว่านั้นมาก ขึ้นอยู่กับชนิดของเอ็น ระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บ และวิธีการรักษา

โดยทั่วไปแล้ว การขยับข้อต่อที่มีเอ็นฉีกขาดนั้น ทำได้ แต่จะมาพร้อมกับความเจ็บปวด ระดับความเจ็บปวดนี้จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดของการฉีกขาด บางครั้งอาจรู้สึกแค่ปวดเล็กน้อย แต่บางครั้งอาจรุนแรงจนไม่สามารถขยับได้เลย ความสามารถในการขยับก็เช่นกัน บางครั้งอาจขยับได้อย่างจำกัด ขยับได้แต่มีอาการผิดปกติ เช่น รู้สึกหลวม หรือขยับแล้วมีเสียงดังในข้อต่อ

ความเข้าใจผิดที่สำคัญคือ การที่สามารถขยับข้อต่อได้ ไม่ได้หมายความว่าเอ็นนั้นไม่เป็นอะไร การขยับข้อต่อโดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดหรืออาการผิดปกติอาจทำให้เอ็นฉีกขาดมากขึ้น หรือทำให้การรักษาใช้เวลานานขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายถาวรต่อข้อต่อได้

ยกตัวอย่างเช่น การบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้า (ACL) ซึ่งเป็นเอ็นสำคัญในหัวเข่า แม้ว่าจะสามารถงอและเหยียดขาได้หลังจากการบาดเจ็บ แต่การขยับอย่างรุนแรงหรือไม่ระมัดระวังอาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม และส่งผลให้การรักษาต้องใช้เวลานานกว่า หรืออาจต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมเอ็น

หลังการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้า หรือการรักษาเอ็นฉีกขาดอื่นๆ แพทย์มักจะแนะนำให้พักฟื้นอย่างน้อย 6-9 เดือน และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บซ้ำ เช่น การวิ่ง การกระโดด หรือการหมุนตัวอย่างรวดเร็ว การทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ข้อต่อ และป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และนักกายภาพบำบัดอย่างเคร่งครัด จะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ และสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ

สรุปแล้ว แม้ว่าข้อต่อที่มีเอ็นฉีกขาดจะสามารถขยับได้ แต่การขยับนั้นอาจมาพร้อมกับความเจ็บปวด และการขยับที่ไม่ระมัดระวังอาจทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น การเข้ารับการตรวจจากแพทย์ การรักษาอย่างเหมาะสม และการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าการบาดเจ็บจะหายเป็นปกติ และป้องกันการบาดเจ็บซ้ำในอนาคต