ควรทาเรตินอลเซรั่มก่อนหรือหลังมอยซ์เจอร์ไรเซอร์

2 การดู

เพื่อให้เรตินอลทำงานได้ดีและลดการระคายเคือง ควรเริ่มด้วยการลงเซรั่มบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นก่อน จากนั้นตามด้วยเรตินอลในปริมาณน้อย แล้วปิดท้ายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้น เพื่อเสริมเกราะป้องกันผิวและลดโอกาสการเกิดผิวแห้งลอก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ลำดับการลงสกินแคร์: ไขความลับการใช้เรตินอลให้ได้ผลดีและอ่อนโยน

เรตินอล (Retinol) คืออนุพันธ์ของวิตามินเอที่ทรงประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสดใส แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องอาการระคายเคือง ผิวแห้งลอก หากใช้อย่างไม่ถูกวิธี คำถามยอดฮิตที่พบบ่อยคือ “ควรทาเรตินอลเซรั่มก่อนหรือหลังมอยส์เจอไรเซอร์?” ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อคศักยภาพของเรตินอลโดยไม่ทำร้ายผิว

ทำไมลำดับการลงสกินแคร์จึงสำคัญ?

การลงสกินแคร์แต่ละขั้นตอนมีผลต่อประสิทธิภาพในการดูดซึมของผลิตภัณฑ์นั้นๆ หากลงผิดลำดับ อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ หรือแย่กว่านั้นคือทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้น สำหรับเรตินอลนั้น การทำความเข้าใจลำดับการลงที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้ผิวได้รับประโยชน์สูงสุด

เคล็ดลับการใช้เรตินอลอย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้เรตินอล หรือมีผิวบอบบางแพ้ง่าย การใช้เทคนิค “Sandwich Method” หรือการ “ประกบเรตินอล” คือวิธีที่ได้รับความนิยมและแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้:

  1. เตรียมผิวด้วยเซรั่มบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น: ก่อนที่จะลงเรตินอล ให้เตรียมผิวด้วยเซรั่มที่เน้นการให้ความชุ่มชื้นและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ส่วนผสมที่ควรมองหาคือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid), เซราไมด์ (Ceramides), หรือ กลีเซอรีน (Glycerin) เซรั่มเหล่านี้จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและพร้อมรับการบำรุงจากเรตินอล
  2. ลงเรตินอลในปริมาณน้อย: เมื่อผิวชุ่มชื้นดีแล้ว ให้ลงเรตินอลในปริมาณเล็กน้อย (ขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวสำหรับทั่วใบหน้า) เกลี่ยเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและมุมปาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่บอบบางและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย หากเป็นผู้เริ่มต้น ควรเริ่มใช้เรตินอลเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และค่อยๆ เพิ่มความถี่เมื่อผิวปรับตัวได้
  3. ปิดท้ายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้น: ขั้นตอนสุดท้ายคือการลงมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้น เพื่อล็อคความชุ่มชื้นและสร้างเกราะป้องกันผิวอีกชั้นหนึ่ง มอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยลดโอกาสการเกิดผิวแห้งลอก และช่วยให้เรตินอลทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มองหาส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว เช่น ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera), คาโมมายล์ (Chamomile), หรือ อัลลันโทอิน (Allantoin)

ทำไมต้องทำแบบนี้?

  • ลดการระคายเคือง: การลงเซรั่มบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นก่อน จะช่วยสร้างชั้นป้องกันผิว ลดโอกาสที่เรตินอลจะสัมผัสกับผิวโดยตรง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการระคายเคือง
  • เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว: การลงมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้นหลังเรตินอล จะช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวที่อาจถูกทำลายจากเรตินอล ทำให้ผิวแข็งแรงและทนทานต่อการระคายเคืองมากขึ้น
  • เพิ่มประสิทธิภาพของเรตินอล: ถึงแม้ว่าการทามอยส์เจอไรเซอร์ก่อนเรตินอลจะช่วยลดการระคายเคือง แต่ก็ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของเรตินอลแต่อย่างใด เรตินอลยังคงสามารถทำงานในการผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ตามปกติ

ข้อควรระวังเพิ่มเติม:

  • เริ่มจากความเข้มข้นต่ำ: หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นใช้เรตินอล ควรเริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำก่อน (เช่น 0.01% หรือ 0.03%) และค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นเมื่อผิวปรับตัวได้
  • ทดสอบอาการแพ้: ก่อนที่จะใช้เรตินอลทั่วใบหน้า ควรทดสอบอาการแพ้โดยทาผลิตภัณฑ์ในบริเวณเล็กๆ เช่น หลังหู หรือใต้ท้องแขน ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแพ้ ก็สามารถใช้เรตินอลบนใบหน้าได้
  • ใช้ครีมกันแดด: เรตินอลอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นจึงควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน แม้ในวันที่ไม่มีแดด
  • ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง: หากคุณมีผิวที่บอบบางแพ้ง่าย หรือมีโรคผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนที่จะเริ่มใช้เรตินอล

สรุป:

การใช้เรตินอลให้ได้ผลดีและอ่อนโยน ต้องใส่ใจในลำดับการลงสกินแคร์ การใช้เทคนิค “Sandwich Method” โดยการลงเซรั่มบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นก่อน ตามด้วยเรตินอลในปริมาณน้อย และปิดท้ายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้น จะช่วยลดการระคายเคือง เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว และเพิ่มประสิทธิภาพของเรตินอล ทำให้คุณสามารถสัมผัสผลลัพธ์ผิวสวยสุขภาพดีได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียง

จำไว้ว่าผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน สิ่งที่ได้ผลสำหรับคนหนึ่งอาจไม่ได้ผลสำหรับอีกคนหนึ่ง ดังนั้นควรสังเกตอาการของผิวอย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนวิธีการใช้เรตินอลให้เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด