ผู้ใหญ่ตัวเหลืองดูยังไง
อาการตัวเหลืองเกิดขึ้นเมื่อมีระดับบิลิรูบินในเลือดสูงเกินปกติ ทำให้ผิวหนังและตาขาวมีสีเหลือง อาจเป็นสัญญาณของภาวะตับหรือถุงน้ำดีอักเสบ โรคหัวใจ หรือการติดเชื้อ
เมื่อผู้ใหญ่ตัวเหลือง: สัญญาณเตือนที่มองข้ามไม่ได้
อาการ “ตัวเหลือง” หรือภาวะดีซ่าน (Jaundice) ในผู้ใหญ่ เป็นสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม แม้จะเป็นอาการที่เห็นได้ชัดเจนอย่างสีเหลืองที่ผิวหนังและตาขาว แต่สาเหตุเบื้องหลังนั้นอาจซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงได้หลายโรค การเข้าใจลักษณะอาการและสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที
ลักษณะอาการตัวเหลืองในผู้ใหญ่:
อาการตัวเหลืองที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการเปลี่ยนสีของผิวหนังและตาขาวให้เป็นสีเหลือง ความเข้มของสีเหลืองอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระดับบิลิรูบินในเลือด นอกจากสีเหลืองแล้ว อาการอื่นๆ ที่อาจพบร่วมด้วยได้แก่:
- ปัสสาวะสีเข้มคล้ายสีชาหรือเบียร์: บิลิรูบินส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น
- อุจจาระสีซีดหรือสีดินเหนียว: บิลิรูบินที่ไม่ถูกขับออกทางตับจะทำให้สีของอุจจาระผิดปกติ
- คันผิวหนัง: บางรายอาจมีอาการคันร่วมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า
- ความเมื่อยล้าและอ่อนเพลีย: เป็นอาการทั่วไปที่พบได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะตัวเหลือง
- ปวดท้อง: อาจมีอาการปวดบริเวณท้องด้านบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสาเหตุมาจากโรคเกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดี
- คลื่นไส้และอาเจียน: อาการเหล่านี้มักเกิดร่วมกับอาการปวดท้อง
สาเหตุของภาวะตัวเหลืองในผู้ใหญ่:
ภาวะตัวเหลืองเกิดจากการสะสมของบิลิรูบินในเลือด บิลิรูบินเป็นสารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดง โดยปกติแล้วตับจะทำหน้าที่กำจัดบิลิรูบินออกจากร่างกาย แต่หากตับทำงานผิดปกติหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่ายบิลิรูบิน ระดับบิลิรูบินในเลือดจะสูงขึ้นและทำให้เกิดภาวะตัวเหลืองได้ สาเหตุที่พบบ่อยได้แก่:
- โรคเกี่ยวกับตับ: เช่น โรคตับอักเสบ (ไวรัส, แอลกอฮอล์, ยา), โรคตับแข็ง, มะเร็งตับ
- โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี: เช่น นิ่วในถุงน้ำดี, ถุงน้ำดีอักเสบ
- การทำลายเม็ดเลือดแดงมากเกินไป: เช่น โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย, โรคธาลัสซีเมีย
- การติดเชื้อในกระแสเลือด: เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรง
- โรคทางพันธุกรรม: เช่น โรคจิเวอร์ (Gilbert’s syndrome) ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้การกำจัดบิลิรูบินไม่สมบูรณ์แต่ไม่รุนแรง
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด: บางชนิดของยาสามารถทำให้เกิดภาวะตัวเหลืองได้
เมื่อใดควรพบแพทย์:
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการตัวเหลือง ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน หรือไข้สูง แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและให้การรักษาที่เหมาะสม การวินิจฉัยอาจรวมถึงการตรวจเลือด การตรวจอุจจาระ การตรวจปัสสาวะ และการตรวจอัลตราซาวนด์ การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของภาวะตัวเหลือง อาจรวมถึงการรักษาโรคพื้นฐาน การให้ยา หรือการผ่าตัด
การสังเกตอาการตัวเหลืองอย่างละเอียดและการไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ เป็นกุญแจสำคัญในการรักษาโรคที่อยู่เบื้องหลังและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่ามองข้ามสัญญาณเตือนนี้ เพราะสุขภาพที่ดีของคุณนั้นสำคัญที่สุด
#ผู้ใหญ่ตัวเหลือง#รูปร่างผู้ใหญ่#สีเหลืองข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต