คนไทยส่วนใหญ่ทํางานอะไร

พลิกมุมมอง: อาชีพคนไทยยุค 2566 มากกว่า “เกษตรกรรม”

ภาพจำของอาชีพคนไทยที่ติดตาหลายคนอาจยังคงเป็นภาพของชาวนาผู้ไถนา หรือชาวประมงผู้แล่นเรือออกทะเล แต่อันที่จริงแล้ว ฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไป ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงงานไทยอย่างชัดเจน ข้อมูลปี 2566 บ่งชี้ว่า แรงงานไทยกว่า 40 ล้านคน หรือกว่าครึ่งหนึ่งของแรงงานทั้งหมด ไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในภาคเกษตรกรรมอีกต่อไป แต่กลับกระจายตัวอยู่ในภาคการค้าและบริการ ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่น่าสนใจ

ความสำเร็จของภาคการค้าและบริการไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลจากหลายปัจจัย ประการแรก ความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก ทำให้เกิดความต้องการแรงงานในภาคนี้จำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขาย พนักงานบริการ พนักงานโรงแรม หรือแม้แต่พนักงานขับรถส่งของ ล้วนเป็นอาชีพที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

ประการที่สอง ภาคการค้าและบริการมีความหลากหลายของงานที่สูงกว่าภาคเกษตรกรรม เปิดโอกาสให้แรงงานที่มีทักษะและความสามารถแตกต่างกันได้เข้ามามีส่วนร่วม ตั้งแต่ระดับพนักงานทั่วไปไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง สร้างโอกาสในการก้าวหน้าในอาชีพได้อย่างกว้างขวาง แตกต่างจากภาคเกษตรกรรมที่อาจจำกัดอยู่เฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรโดยตรง

นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นส่วนสำคัญของภาคบริการ ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างงาน จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างงานในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่โรงแรม ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว ไปจนถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานฝีมือและวัฒนธรรมไทย สร้างรายได้และโอกาสทางการจ้างงานอย่างมากมาย

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของภาคการค้าและบริการก็มาพร้อมกับความท้าทาย การแข่งขันที่สูงขึ้น ความต้องการทักษะเฉพาะทาง และความไม่มั่นคงของงาน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข การพัฒนาฝีมือแรงงาน การสร้างระบบการศึกษาและการฝึกอบรมที่ตอบสนองความต้องการของตลาด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้แรงงานไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สรุปได้ว่า ภาพของแรงงานไทยในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงไปจากภาพจำเดิมอย่างสิ้นเชิง ภาคการค้าและบริการได้กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับคนไทยส่วนใหญ่ การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ และการวางแผนเพื่อรองรับความท้าทายที่ตามมา จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของประเทศไทย