ทำไมต้องทำงานวันละ 8 ชม.

8 ชั่วโมง…จริงหรือ? ถกประเด็น “วันทำงาน” และความยืดหยุ่นแห่งอนาคต

สังคมปัจจุบันยังคงยึดถือ “วันทำงาน 8 ชั่วโมง” เป็นมาตรฐานแม้จะผ่านมาเกือบสองศตวรรษแล้ว นับตั้งแต่ที่โรเบิร์ต โอเวนเสนอแนวคิดนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 แต่ในยุคที่โลกหมุนเร็วและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แบบแผนการทำงานแบบดั้งเดิมนี้ยังคงเหมาะสมอยู่หรือไม่? คำตอบอาจไม่ใช่ “ใช่” เสมอไป

ความจริงแล้ว 8 ชั่วโมงอาจไม่ใช่ “สูตรสำเร็จ” สำหรับทุกคน ทุกอาชีพ และทุกองค์กร การทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันนั้นถูกสร้างขึ้นมาในบริบทของสังคมอุตสาหกรรม เน้นการทำงานที่เป็นไปตามขั้นตอนและซ้ำซากจำเจ ดังนั้น การกำหนดเวลาทำงานตายตัวจึงดูจะเป็นวิธีที่ควบคุมได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันงานหลายประเภทต้องการความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกัน ซึ่งไม่สามารถวัดผลได้ด้วยเวลาทำงานเพียงอย่างเดียว ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่สิ่งที่บังคับให้เกิดขึ้นได้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด บางคนอาจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาเพียง 6 ชั่วโมง ในขณะที่บางคนอาจต้องการเวลา 10 ชั่วโมง การยึดติดกับเวลาทำงาน 8 ชั่วโมงแบบตายตัวจึงอาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงาน และนำไปสู่ความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ

นี่คือที่มาของความสำคัญของ “การทำงานแบบยืดหยุ่น” รูปแบบการทำงานที่เปิดโอกาสให้พนักงานมีอิสระในการจัดการเวลาทำงานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากระยะไกล การเลือกเวลาเข้า-ออกทำงาน หรือการทำงานแบบผลลัพธ์เป็นหลัก (Outcome-Based Work) ความยืดหยุ่นนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงเวลาทำงานเล็กน้อย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความสำเร็จของงาน

ผลดีของการทำงานแบบยืดหยุ่นชัดเจน พนักงานมีเวลาในการจัดการชีวิตส่วนตัวได้มากขึ้น สามารถดูแลครอบครัว ทำกิจกรรมที่ชอบ หรือพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เกิดความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ลดความเครียด เพิ่มความสุข และในที่สุดก็เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพราะพนักงานที่รู้สึกมีความสุขและมีแรงบันดาลใจ ย่อมทำงานได้ดีกว่า นอกจากนี้ การทำงานแบบยืดหยุ่นยังช่วยดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในตลาดแรงงานที่แข่งขันสูงในปัจจุบัน

กล่าวโดยสรุป แม้ว่าวันทำงาน 8 ชั่วโมงจะเป็นมาตรฐานที่คุ้นเคย แต่การยึดติดกับมันโดยไม่คำนึงถึงความหลากหลายของงานและบุคคล อาจไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสมที่สุดอีกต่อไป การทำงานแบบยืดหยุ่นกำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น และเป็นตัวอย่างของการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มันไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเท่านั้น แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้น ส่งเสริมความสุข และสร้างความสมดุลให้กับชีวิตของพนักงานได้อย่างแท้จริง การเปลี่ยนแปลงนี้อาจไม่ใช่เพียงการปรับเปลี่ยนเวลาทำงาน แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดเกี่ยวกับ “การทำงาน” ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า และมีความสุขมากกว่า