คนดี 4 โมงแลงคืออะไร

คนดีสี่โมงเย็น: ความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำยกย่อง

“คนดีสี่โมงเย็น” เป็นวลีที่ใช้เปรียบเปรยถึงการยกย่องคุณงามความดีของผู้วายชนม์ในงานศพ มักใช้โดยพิธีกรในงาน โดยเน้นย้ำถึงด้านดีและคุณประโยชน์ที่ผู้ล่วงลับได้ทำไว้ เสมือนเป็นการส่งดวงวิญญาณไปสู่สุคติด้วยความชื่นชมและระลึกถึงแต่สิ่งที่ดีงาม

ที่มาของวลีนี้ สันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับบรรยากาศและช่วงเวลาของงานศพที่มักจัดขึ้นในช่วงบ่าย ราวสี่โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แดดร่มลมตก อากาศเย็นสบาย สร้างบรรยากาศที่สงบและเหมาะแก่การไว้อาลัย ประกอบกับคำกล่าวสรรเสริญคุณงามความดีของผู้ล่วงลับ จึงทำให้เกิดความรู้สึกโสกเศร้าและอาลัยอาวรณ์ เสมือนว่าผู้วายชนม์เป็น “คนดี” ที่ควรค่าแก่การระลึกถึง

อย่างไรก็ตาม “คนดีสี่โมงเย็น” มักถูกใช้ในบริบทที่แฝงนัยยะประชดประชันถึงความจริงที่ว่า การยกย่องคุณงามความดีในงานศพนั้น อาจไม่ได้สะท้อนถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้วายชนม์เสมอไป อาจเป็นเพียงการรักษาน้ำใจและให้เกียรติผู้ล่วงลับ รวมถึงปลอบประโลมญาติมิตรที่กำลังโศกเศร้า ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันมาช้านานในสังคมไทย

ดังนั้น การใช้คำว่า “คนดีสี่โมงเย็น” จึงควรระมัดระวังและตระหนักถึงบริบทของการใช้งาน ไม่ควรนำไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือนอกเหนือจากงานศพ เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สื่อความหมายในเชิงลบ ดูหมิ่นเหยียดหยาม และไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำไปใช้กับบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและเกียรติยศของบุคคลนั้นได้

สรุปคือ “คนดีสี่โมงเย็น” เป็นวลีที่ใช้ในบริบทเฉพาะของงานศพ เพื่อยกย่องผู้ล่วงลับและปลอบใจญาติมิตร ไม่ควรนำไปใช้ในบริบทอื่น เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและไม่เหมาะสม. ควรตระหนักถึงนัยยะที่ซ่อนอยู่และใช้วิจารณญาณในการรับฟังและการสื่อสาร เพื่อหลีกเลี่ยงการตีความที่ผิดเพี้ยนและส่งผลกระทบในทางลบ.