คณะไหนตกงานเยอะสุด

คณะไหนตกงานเยอะสุด? มุมมองที่ต้องคิดให้รอบด้าน

คำถามที่ว่า “คณะไหนตกงานเยอะสุด?” เป็นคำถามที่นักเรียนหลายคนกังวล แต่ความจริงแล้ว คำถามนี้ซับซ้อนกว่าที่คิด และไม่มีคำตอบตายตัว การที่บัณฑิตจะตกงานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่แค่คณะที่เรียนเพียงอย่างเดียว

แทนที่จะมองหา “คณะที่ตกงานเยอะสุด” เราควรเปลี่ยนมุมมองมาเป็นการวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดการว่างงาน ซึ่งได้แก่:

• ความต้องการของตลาดแรงงาน: ตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บางสาขาอาชีพอาจมีความต้องการสูงในช่วงหนึ่ง แต่ลดลงในอีกช่วงหนึ่ง เช่น เมื่อก่อนสาขาที่เกี่ยวกับน้ำมันอาจเป็นที่ต้องการมาก แต่เมื่อโลกหันมาสนใจพลังงานทดแทน ความต้องการก็อาจลดลง ดังนั้น การติดตามแนวโน้มของตลาดแรงงานจึงสำคัญมาก
• ทักษะของบัณฑิต: แม้จะเรียนจบจากคณะที่เป็นที่ต้องการ แต่หากบัณฑิตขาดทักษะที่จำเป็น เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหา หรือทักษะดิจิทัล ก็อาจทำให้หางานยากได้ ดังนั้น การพัฒนาทักษะตัวเองอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ
• จำนวนบัณฑิตที่จบในแต่ละปี: หากมีบัณฑิตจบจากสาขาใดสาขาหนึ่งจำนวนมากเกินความต้องการของตลาดแรงงาน ก็ย่อมทำให้เกิดการแข่งขันสูงและมีโอกาสตกงานมากขึ้น
• คุณภาพของการศึกษา: สถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ จะช่วยเตรียมความพร้อมให้บัณฑิตมีทักษะและความรู้ที่จำเป็น เพิ่มโอกาสในการได้งานที่ดี
• เครือข่ายและการสร้างคอนเนคชั่น: การมีเครือข่ายที่ดี การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ และการฝึกงาน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานหลังเรียนจบ

ดังนั้น แทนที่จะกังวลว่าคณะไหนตกงานเยอะสุด เราควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะ ติดตามแนวโน้มของตลาดแรงงาน เลือกเรียนในสิ่งที่ชอบและถนัด และสร้างเครือข่ายที่ดี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากกว่าการเลือกคณะเพียงอย่างเดียว

สาขาที่น่าสนใจในปัจจุบัน: แม้จะไม่มีคณะไหนการันตีได้ว่าจะไม่ตกงาน แต่สาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี สุขภาพ พลังงานทดแทน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ E-commerce และ Digital Marketing เป็นต้น กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประกอบการตัดสินใจ

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงมุมมองทั่วไป สถานการณ์ตลาดแรงงานอาจเปลี่ยนแปลงได้ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อการตัดสินใจที่เหมาะสม