ตรวจสอบบัญชีย้อนหลังได้กี่ปี

0 การดู

การตรวจสอบบัญชีภาษีย้อนหลังของกรมสรรพากรมีความสำคัญอย่างยิ่ง การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดจะช่วยป้องกันปัญหาความเสียหายในอนาคต กรมสรรพากรสามารถตรวจสอบได้นานสูงสุด 10 ปี ดังนั้นการจัดทำบัญชีให้ถูกต้องและครบถ้วนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อความราบรื่นในการดำเนินธุรกิจและหลีกเลี่ยงความผิดพลาดทางกฎหมาย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รู้ทันกฎหมาย: สรรพากรตรวจสอบบัญชีย้อนหลังได้นานแค่ไหน และทำไมต้องเตรียมพร้อม

การดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน นอกจากจะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการแข่งขันทางการตลาดแล้ว การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอากรก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากพลาดพลั้ง อาจนำมาซึ่งปัญหาและภาระทางการเงินที่ไม่คาดฝันได้ หนึ่งในประเด็นที่ผู้ประกอบการหลายท่านให้ความสนใจคือ ระยะเวลาที่กรมสรรพากรสามารถตรวจสอบบัญชีย้อนหลังได้นานแค่ไหน และเราควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อรับมือกับการตรวจสอบที่อาจเกิดขึ้น

ตามกฎหมายแล้ว กรมสรรพากรมีสิทธิในการตรวจสอบบัญชีย้อนหลังได้สูงสุดถึง 10 ปี แต่ระยะเวลาดังกล่าวไม่ได้เริ่มต้นทันทีหลังจากการสิ้นสุดปีภาษีนั้นๆ กฎหมายกำหนดว่า ระยะเวลาการประเมินภาษีของเจ้าพนักงานประเมินจะเริ่มนับตั้งแต่ วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลาในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี ของปีภาษีนั้นๆ ตัวอย่างเช่น หากท่านยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) สำหรับปีภาษี 2566 ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 กรมสรรพากรจะมีสิทธิในการตรวจสอบบัญชีของท่านย้อนหลังไปจนถึงปี 2557 (นับจาก 31 พฤษภาคม 2567 ย้อนหลังไป 10 ปี)

เหตุใดจึงต้องตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง?

การตรวจสอบบัญชีย้อนหลังของกรมสรรพากรมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ:

  • ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล: เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่แสดงในแบบแสดงรายการภาษีนั้นถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นไปตามข้อเท็จจริง
  • ประเมินภาษีเพิ่มเติม: หากพบว่ามีการยื่นภาษีขาด หรือมีการแสดงค่าใช้จ่ายที่ไม่ถูกต้อง กรมสรรพากรมีอำนาจในการประเมินภาษีเพิ่มเติม พร้อมทั้งเรียกเก็บเงินเพิ่มและเบี้ยปรับตามที่กฎหมายกำหนด
  • ป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี: เพื่อป้องปรามและลงโทษผู้ที่เจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอากร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ

เตรียมพร้อมรับมือการตรวจสอบบัญชีอย่างไร?

เพื่อความราบรื่นในการดำเนินธุรกิจ และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการตรวจสอบบัญชี ควรให้ความสำคัญกับสิ่งต่อไปนี้:

  1. จัดทำบัญชีอย่างถูกต้องและเป็นระบบ: บันทึกรายการค้าขายและธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดอย่างละเอียด ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน ควรใช้ระบบบัญชีที่ได้มาตรฐานและสามารถตรวจสอบได้ง่าย
  2. เก็บรักษาเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน: จัดเก็บเอกสารประกอบการบันทึกบัญชีทั้งหมด เช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน สัญญาต่างๆ เอกสารทางการเงิน ฯลฯ อย่างเป็นระเบียบ และเก็บรักษาไว้ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด (โดยทั่วไปคือ 5 ปี นับแต่วันที่ยื่นแบบแสดงรายการ) อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย ควรเก็บรักษาเอกสารเหล่านี้ไว้อย่างน้อย 10 ปี เพื่อให้ครอบคลุมระยะเวลาที่กรมสรรพากรสามารถตรวจสอบได้
  3. ยื่นแบบแสดงรายการภาษีให้ถูกต้องและตรงเวลา: ทำความเข้าใจกฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่านอย่างถ่องแท้ และยื่นแบบแสดงรายการภาษีทุกประเภทให้ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงตามกำหนดเวลา
  4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากท่านไม่แน่ใจในเรื่องใด ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษีอากร เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือ

สรุป:

การทราบระยะเวลาที่กรมสรรพากรสามารถตรวจสอบบัญชีย้อนหลังได้ และการเตรียมความพร้อมอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ท่านสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจ และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการตรวจสอบภาษีได้ การให้ความสำคัญกับการจัดทำบัญชีอย่างถูกต้อง เก็บรักษาเอกสารหลักฐานครบถ้วน และยื่นแบบแสดงรายการภาษีอย่างถูกต้องและตรงเวลา จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการทุกท่าน

ข้อควรระวัง:

  • บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอากรโดยตรง
  • กฎหมายภาษีอากรมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ควรติดตามข่าวสารและข้อมูลล่าสุดจากกรมสรรพากรอย่างสม่ำเสมอ