เงินคืน ประกันชีวิต คืออะไร

เงินคืนจากประกันชีวิต: มากกว่าแค่ความคุ้มครอง คือผลตอบแทนที่จับต้องได้

ในโลกของการประกันชีวิต เรามักคุ้นเคยกับคำว่า “ความคุ้มครอง” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำประกัน นั่นคือการปกป้องทางการเงินจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากความคุ้มครองแล้ว ยังมี “เงินคืนจากประกันชีวิต” ที่เป็นเหมือนโบนัสพิเศษเพิ่มเติมเข้ามาเติมเต็มความคุ้มค่าให้กับแผนประกันของคุณ

เงินคืนจากประกันชีวิตคืออะไร?

เงินคืนจากประกันชีวิต (Cash Back Benefit) คือ สิทธิประโยชน์ที่ผู้ทำประกันจะได้รับเป็นเงินคืนตามงวดเวลาที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งแตกต่างจากผลประโยชน์อื่นๆ เช่น เงินชดเชยรายได้ หรือเงินสินไหมทดแทน เงินคืนนี้เปรียบเสมือน “ผลตอบแทน” ที่ได้รับควบคู่ไปกับความคุ้มครองหลักที่ประกันมอบให้ ไม่ใช่เงินที่จ่ายคืนเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่เป็นเงินที่บริษัทประกันจ่ายคืนให้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า

ทำไมถึงมีเงินคืนจากประกันชีวิต?

แนวคิดของเงินคืนจากประกันชีวิตเกิดขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ที่ต้องการทั้งความคุ้มครองและความสามารถในการ “เห็นผลตอบแทน” ที่ชัดเจนกว่าการรอรับเงินสินไหมเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนที่จับต้องได้และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

ประกันประเภทไหนที่มีเงินคืน?

โดยทั่วไปแล้ว เงินคืนจากประกันชีวิตมักพบได้บ่อยในประกันประเภท ประกันสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance) และ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance) โดยประกันเหล่านี้มักถูกออกแบบมาเพื่อการออมและการลงทุนระยะยาว ควบคู่ไปกับการให้ความคุ้มครองชีวิต

เงินคืนจากประกันชีวิต: โบนัสที่มากกว่าแค่ตัวเลข

เงินคืนที่ได้รับจากประกันชีวิตไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่ปรากฏในบัญชีเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น:

• ใช้จ่ายส่วนตัว: นำเงินคืนไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซื้อของที่อยากได้ หรือใช้จ่ายในกิจกรรมที่ชื่นชอบ
• ลงทุนต่อยอด: นำเงินคืนไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อเพิ่มพูนผลตอบแทนในระยะยาว เช่น หุ้น กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์
• เงินสำรองยามฉุกเฉิน: เก็บเงินคืนไว้เป็นเงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
• ชำระเบี้ยประกัน: นำเงินคืนที่ได้ไปชำระเบี้ยประกันงวดต่อไป ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกประกันที่มีเงินคืน

• อัตราเงินคืน: ตรวจสอบอัตราเงินคืนที่ได้รับว่าเหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายทางการเงินของคุณหรือไม่
• ความถี่ในการจ่ายเงินคืน: พิจารณาความถี่ในการจ่ายเงินคืนว่าตรงกับความต้องการใช้เงินของคุณหรือไม่ บางกรมธรรม์อาจจ่ายเงินคืนรายปี บางกรมธรรม์อาจจ่ายเงินคืนทุกๆ 3 ปี หรือ 5 ปี
• เงื่อนไขการจ่ายเงินคืน: ทำความเข้าใจเงื่อนไขการจ่ายเงินคืนอย่างละเอียด เช่น จะได้รับเงินคืนก็ต่อเมื่อชำระเบี้ยประกันครบตามกำหนด หรือหากยกเลิกกรมธรรม์ก่อนกำหนด อาจไม่ได้รับเงินคืน
• เปรียบเทียบความคุ้มค่า: เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของประกันที่มีเงินคืนกับประกันที่ไม่มีเงินคืน เพื่อให้แน่ใจว่าเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของคุณมากที่สุด

สรุป

เงินคืนจากประกันชีวิตเป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับแผนประกันของคุณ ด้วยความสามารถในการนำไปใช้จ่าย ลงทุน หรือเป็นเงินสำรอง ทำให้เงินคืนจากประกันชีวิตเป็นมากกว่าแค่ตัวเลข แต่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจเลือกประกันที่มีเงินคืน ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และทำความเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าแผนประกันที่คุณเลือกนั้นตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง