เงินสมทบประกันสังคมสามารถเบิกมาใช้ก่อนได้ไหม

0 การดู

เงินชราภาพประกันสังคม (มาตรา 33 และ 39) ไม่สามารถเบิกใช้ก่อนอายุ 55 ปีได้ แม้จะสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้วก็ตาม เงินสะสมชราภาพเริ่มเก็บ 31 ธันวาคม 2541 ผู้มีสิทธิรับเงินคืนต้องมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปและสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้วเท่านั้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เงินสมทบประกันสังคม เบิกได้ก่อนเกษียณหรือไม่? ไขข้อข้องใจเรื่องเงินเก็บยามชรา

หลายคนอาจสงสัยว่า เงินสมทบประกันสังคมที่เราส่งทุกเดือนนั้น สามารถเบิกออกมาใช้ก่อนถึงเวลาเกษียณได้หรือไม่ คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับว่าเราพูดถึงเงินสมทบส่วนไหน โดยทั่วไปแล้ว เงินสมทบที่นำไปคำนวณเป็นเงินบำนาญชราภาพนั้น ไม่สามารถ เบิกออกมาใช้ก่อนกำหนดได้

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 เงินสมทบส่วนที่นำไปคำนวณเป็นเงินบำนาญชราภาพนั้น จะถูกเก็บสะสมไว้ และไม่สามารถเบิกออกมาใช้ก่อนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ได้ แม้ว่าจะลาออกจากงาน หรือสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนด้วยเหตุผลอื่นใดก็ตาม เงินส่วนนี้จะถูกเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นหลักประกันในยามเกษียณ เพื่อให้ผู้ประกันตนมีเงินเลี้ยงชีพหลังจากที่หยุดทำงานแล้ว

หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่า หากออกจากงานหรือไม่ได้ทำงานแล้ว สามารถเบิกเงินสมทบประกันสังคมออกมาใช้ได้เลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เงินชราภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับชีวิตหลังเกษียณ จึงมีเงื่อนไขการเบิกที่เข้มงวด คือต้องมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้วเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกันตนถึงแก่กรรมก่อนอายุ 55 ปี ทายาทตามกฎหมายสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินบำเหน็จชราภาพแทนได้ ซึ่งเป็นข้อยกเว้นสำหรับกรณีที่ผู้ประกันตนเสียชีวิต

นอกจากเงินชราภาพแล้ว ประกันสังคมยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่สามารถเบิกได้ เช่น ค่าคลอดบุตร, ค่าทดแทนกรณีว่างงาน, ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งแต่ละกรณีจะมีเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในการเบิกที่แตกต่างกัน ผู้ประกันตนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของประกันสังคม เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด

สรุปคือ เงินสมทบประกันสังคมส่วนที่นำไปคำนวณเป็นเงินบำนาญชราภาพ ไม่สามารถเบิกออกมาใช้ก่อนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ได้ แม้จะสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้ว ดังนั้น ควรวางแผนการเงินให้รอบคอบ และอย่าคาดหวังว่าจะสามารถเบิกเงินส่วนนี้ออกมาใช้ก่อนกำหนด