ตีเจ็ด กี่โมง

2 การดู

รู้หรือไม่ว่า นอกจากการเรียกเวลาแบบ ตี แล้ว เรายังมีคำเรียกเวลาแบบโบราณที่น่าสนใจอีกด้วย เช่น ยามหนึ่ง, ยามสอง ซึ่งแบ่งช่วงเวลาเป็น 4 ยาม แต่ละยามยาว 3 ชั่วโมง ลองศึกษาเพิ่มเติมดูสิ แล้วคุณจะพบความสนุกของภาษาไทยอีกมุมหนึ่ง!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตีเจ็ด กี่โมง? คำถามง่ายๆ ที่คำตอบคือ 7 นาฬิกา หรือ 7:00 น. แต่เบื้องหลังคำว่า “ตี” ซ่อนความน่าสนใจของวัฒนธรรมการบอกเวลาแบบไทยๆ ที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน การ “ตี” หมายถึงการตีฆ้องหรือระฆังเพื่อบอกเวลา ซึ่งเป็นวิธีการบอกเวลาในอดีตที่เราคุ้นเคยกันดี

ในปัจจุบัน แม้เราจะใช้ระบบนาฬิกาดิจิตอลและอนาล็อกเป็นหลัก แต่คำว่า “ตี” ก็ยังคงฝังรากลึกในภาษาพูดของคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ แสดงให้เห็นถึงความผูกพันกับวิถีชีวิตดั้งเดิมที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากการบอกเวลาแบบ “ตี” แล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีการบอกเวลาแบบโบราณที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ การบอกเวลาเป็น “ยาม” โดยหนึ่งวันจะแบ่งออกเป็น 4 ยาม ได้แก่ ยามหนึ่ง, ยามสอง, ยามสาม และยามสี่ แต่ละยามกินเวลา 3 ชั่วโมง

  • ยามหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ 18:00 น. – 21:00 น. (หัวค่ำ)
  • ยามสอง เริ่มตั้งแต่ 21:00 น. – 00:00 น. (ดึก)
  • ยามสาม เริ่มตั้งแต่ 00:00 น. – 03:00 น. (เที่ยงคืน)
  • ยามสี่ เริ่มตั้งแต่ 03:00 น. – 06:00 น. (ใกล้รุ่ง)

การแบ่งเวลาแบบ “ยาม” สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตที่ผูกพันกับธรรมชาติ เช่น การสังเกตตำแหน่งของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ซึ่งแตกต่างจากการบอกเวลาแบบปัจจุบันที่เน้นความแม่นยำ

ลองนึกภาพบรรยากาศในอดีต เสียงฆ้องดัง “ตีเจ็ด” ปลุกผู้คนให้ตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวัน หรือเสียงคนเฒ่าคนแก่เล่าเรื่องราวใน “ยามสอง” สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าจดจำ

การเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการบอกเวลาแบบโบราณเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของภาษาไทย แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงเราเข้ากับรากเหง้าทางวัฒนธรรม และเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับการเรียนรู้เรื่องราวในอดีตอีกด้วย ลองศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบอกเวลาแบบไทยๆ ดูสิ แล้วคุณจะพบความสนุกและความลึกซึ้งของภาษาไทยอีกมุมหนึ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน