ขั้นตอนการเคลม พ.ร.บ. มีอะไรบ้าง

0 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

พ.ร.บ. คุ้มครองคุณและคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางถนน! หากเกิดเหตุ รีบนำส่งโรงพยาบาลและแจ้งบริษัทประกันทันที เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็ว อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุก่อนเดินทางเสมอ เพื่อความอุ่นใจตลอดเส้นทาง!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

พ.ร.บ. คุ้มครองคุณและคู่กรณี: รู้ขั้นตอนเคลมให้ไว อุ่นใจเมื่อเกิดเหตุ

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน และเมื่อเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลรักษาชีวิตและทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้อง หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยบรรเทาภาระทางการเงินในยามคับขันก็คือ “พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “พ.ร.บ.” ที่ไม่ได้คุ้มครองแค่ผู้ขับขี่ แต่ยังครอบคลุมถึงผู้โดยสาร และบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุนั้นด้วย

หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของ พ.ร.บ. หรือไม่ทราบขั้นตอนการเคลมที่ถูกต้อง ทำให้เสียสิทธิ์ในการรับความคุ้มครองที่ควรได้รับ บทความนี้จึงขอเจาะลึกขั้นตอนการเคลม พ.ร.บ. อย่างละเอียด เพื่อให้คุณพร้อมรับมือและจัดการได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจความคุ้มครองเบื้องต้นของ พ.ร.บ. กันก่อน:

พ.ร.บ. ให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ:

  • ค่าเสียหายเบื้องต้น: เป็นค่ารักษาพยาบาล หรือค่าปลงศพ (กรณีเสียชีวิต) ที่บริษัทประกันจะจ่ายให้โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด ซึ่งผู้ประสบภัยจะได้รับทันทีเมื่อแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
  • ค่าสินไหมทดแทน: เป็นค่าเสียหายส่วนที่เกินจากค่าเสียหายเบื้องต้น ซึ่งจะจ่ายให้กับผู้ประสบภัยที่เป็นฝ่ายถูก หรือทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิต โดยบริษัทประกันจะทำการพิสูจน์ความรับผิดก่อน

ขั้นตอนการเคลม พ.ร.บ. อย่างละเอียด:

  1. เมื่อเกิดอุบัติเหตุ:

    • ความปลอดภัยต้องมาก่อน: ตั้งสติ และตรวจสอบความปลอดภัยของตนเองและผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
    • ปฐมพยาบาลเบื้องต้น: หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้รีบให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และโทรเรียกรถพยาบาล (1669) หรือหน่วยกู้ภัย
    • แจ้งเหตุ: แจ้งเหตุให้บริษัทประกันภัยที่คุณทำ พ.ร.บ. ไว้ทราบทันที เพื่อให้บริษัทเข้ามาดูแลและให้คำแนะนำ
    • บันทึกข้อมูล: บันทึกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุให้มากที่สุด เช่น สถานที่เกิดเหตุ วันและเวลา คู่กรณี พยาน (ถ้ามี) หมายเลขทะเบียนรถ และรายละเอียดของบริษัทประกันภัยของคู่กรณี
  2. การนำส่งโรงพยาบาล:

    • แจ้งสิทธิ์: แจ้งให้โรงพยาบาลทราบว่าผู้ป่วยมี พ.ร.บ. เพื่อให้โรงพยาบาลดำเนินการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกันภัยโดยตรง
    • เตรียมเอกสาร: เตรียมเอกสารที่จำเป็น ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประสบภัย สำเนาทะเบียนรถ (ถ้ามี) และสำเนา พ.ร.บ. (ถ้ามี)
  3. การยื่นเคลม:

    • รวบรวมเอกสาร: เตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการยื่นเคลม ได้แก่
      • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประสบภัย
      • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ประสบภัย (กรณีเสียชีวิต)
      • สำเนาใบมรณบัตร (กรณีเสียชีวิต)
      • สำเนา พ.ร.บ.
      • สำเนาใบขับขี่ของผู้ขับขี่
      • สำเนาทะเบียนรถ
      • สำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีจากสถานีตำรวจ (ใบแจ้งความ)
      • ใบรับรองแพทย์ หรือใบสรุปประวัติการรักษา
      • ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล (ถ้ามี)
      • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน)
    • ติดต่อบริษัทประกัน: ติดต่อบริษัทประกันภัยที่คุณทำ พ.ร.บ. ไว้ เพื่อยื่นเอกสารและดำเนินการเคลม
  4. การพิจารณาและจ่ายค่าสินไหม:

    • การพิจารณา: บริษัทประกันภัยจะทำการพิจารณาเอกสารและตรวจสอบข้อเท็จจริง
    • การจ่ายค่าสินไหม: เมื่อการพิจารณาเสร็จสิ้น บริษัทประกันภัยจะทำการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ประสบภัย หรือทายาทโดยธรรม (กรณีเสียชีวิต) ตามเงื่อนไขของ พ.ร.บ.

ข้อควรจำ:

  • ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนเดินทางเสมอ: พ.ร.บ. มีอายุ 1 ปี ควรต่ออายุล่วงหน้าเพื่อความอุ่นใจ
  • เก็บสำเนา พ.ร.บ. ไว้ในรถ: เพื่อความสะดวกในการแสดงหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • หากมีข้อสงสัย: สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทประกันภัยที่คุณทำ พ.ร.บ. ไว้ หรือที่สำนักงาน คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย)

พ.ร.บ. ไม่ได้เป็นเพียงแค่เอกสารที่กฎหมายบังคับให้ต้องมี แต่เป็นหลักประกันความปลอดภัยทางการเงินที่สำคัญเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลม และเตรียมพร้อมรับมือ จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และได้รับความคุ้มครองที่ควรได้รับอย่างเต็มที่

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนการเคลม พ.ร.บ. ได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น ขับขี่ปลอดภัย มีสติ และอย่าลืมตรวจสอบ พ.ร.บ. ก่อนออกเดินทางทุกครั้งนะครับ!