เมารถตู้ แก้ยังไงได้บ้าง
ลองปรับท่านั่งให้หลังตรง พิงเบาะพอดี ไม่เอนมากเกินไป มองออกไปนอกหน้าต่างที่ทิวทัศน์ไกลๆ หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ เป็นจังหวะ และเคี้ยวหมากฝรั่งรสมิ้นท์อ่อนๆ ระหว่างเดินทาง จะช่วยบรรเทาอาการเมารถได้
เมารถตู้: สารพัดวิธีเอาชนะอาการคลื่นไส้บนท้องถนน
การเดินทางด้วยรถตู้เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการเดินทางระยะกลางและระยะไกลในประเทศไทย ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และราคาที่เหมาะสม แต่สำหรับหลายๆ คน การนั่งรถตู้กลับกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำนัก เพราะอาการ “เมารถ” ที่คอยกวนใจตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง
อาการเมารถไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และความรุนแรงของอาการก็แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนเพียงแค่รู้สึกมึนๆ งงๆ แต่บางคนอาจถึงขั้นคลื่นไส้ อาเจียน ทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยความทรมาน สาเหตุหลักของอาการเมารถคือความขัดแย้งระหว่างข้อมูลที่ร่างกายได้รับจากประสาทสัมผัสต่างๆ ดวงตาที่มองเห็นการเคลื่อนที่ภายในรถ แต่หูชั้นในที่รับรู้การทรงตัวกลับบอกว่าร่างกายอยู่นิ่ง ทำให้สมองเกิดความสับสนและกระตุ้นให้เกิดอาการเมารถ
นอกเหนือจากวิธีเบื้องต้นที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เช่น การปรับท่านั่งให้หลังตรง พิงเบาะ มองออกไปนอกหน้าต่าง และหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ พร้อมทั้งเคี้ยวหมากฝรั่งรสมิ้นท์อ่อนๆ ที่ช่วยบรรเทาอาการได้ในระดับหนึ่งแล้ว เรายังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมที่จะช่วยให้คุณเอาชนะอาการเมารถตู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น:
1. เตรียมตัวก่อนเดินทาง:
- พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนเดินทางจะช่วยลดความอ่อนล้าของร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเมารถได้ง่ายขึ้น
- ทานอาหารเบาๆ: หลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารทอด และอาหารรสจัดก่อนเดินทาง เลือกทานอาหารย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือผลไม้
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีน: เครื่องดื่มเหล่านี้อาจทำให้อาการเมารถแย่ลง
- เตรียมยาแก้เมารถ: หากคุณทราบดีว่าตัวเองมีอาการเมารถเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อหายาแก้เมารถติดตัวไว้เสมอ และทานยาตามคำแนะนำก่อนออกเดินทาง
2. เลือกที่นั่งให้เป็น:
- นั่งด้านหน้า: ที่นั่งด้านหน้าของรถตู้จะมีการเคลื่อนไหวที่น้อยกว่าด้านหลัง ทำให้ลดโอกาสในการเกิดอาการเมารถได้
- นั่งใกล้หน้าต่าง: การมองออกไปภายนอกจะช่วยให้ประสาทสัมผัสของดวงตาและหูชั้นในสอดคล้องกันมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการนั่งหันหลังให้ทิศทางการเคลื่อนที่: การนั่งหันหลังอาจทำให้สมองสับสนมากยิ่งขึ้น
3. ระหว่างการเดินทาง:
- หลีกเลี่ยงการอ่านหนังสือหรือเล่นโทรศัพท์มือถือ: การจ้องมองสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่อาจทำให้เกิดอาการเมารถได้ง่ายขึ้น
- พูดคุยกับเพื่อนร่วมทาง: การพูดคุยจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการเมารถ
- ฟังเพลงเบาๆ: การฟังเพลงที่ผ่อนคลายจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายมากขึ้น
- จิบน้ำเย็น: การจิบน้ำเย็นเป็นระยะๆ จะช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้
- สูดดมยาดมหรือน้ำมันหอมระเหย: กลิ่นหอมของยาดมหรือน้ำมันหอมระเหยบางชนิด เช่น เปปเปอร์มินต์ หรือลาเวนเดอร์ อาจช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้
4. หากรู้สึกไม่สบาย:
- แจ้งคนขับรถ: หากรู้สึกไม่สบาย ให้แจ้งคนขับรถเพื่อขอพักรถเป็นระยะๆ การได้ลงมายืดเส้นยืดสายและสูดอากาศบริสุทธิ์จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น
- ประคบเย็น: ใช้ผ้าเย็นประคบบริเวณหน้าผากหรือท้ายทอย
- หายใจเข้าลึกๆ: หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ทางจมูก และหายใจออกทางปาก
5. ทางเลือกอื่นๆ:
- การฝังเข็ม: บางคนพบว่าการฝังเข็มช่วยลดอาการเมารถได้
- การสะกดจิต: การสะกดจิตอาจช่วยควบคุมความรู้สึกคลื่นไส้ได้
- ยาแก้เมารถทางเลือก: ขิงเป็นสมุนไพรที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีสรรพคุณในการลดอาการคลื่นไส้ คุณอาจทานขิงในรูปแบบต่างๆ เช่น ขิงผง ขิงแคปซูล หรือน้ำขิง
การเดินทางด้วยรถตู้ไม่จำเป็นต้องเป็นประสบการณ์ที่ทรมานเสมอไป ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณสามารถเอาชนะอาการเมารถและเพลิดเพลินกับการเดินทางได้อย่างเต็มที่
#วิธีแก้#เมารถตู้#แก้เมารถข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต