น้ํา RO กับ น้ํา DI แตกต่างกันอย่างไร

2 การดู

น้ำ RO คือน้ำที่ผ่านกระบวนการกรองแบบรีเวอร์สออสโมซิส ทำให้มีความบริสุทธิ์สูง ลดสิ่งปนเปื้อนและแร่ธาตุบางชนิด แต่ยังมีไอออนหลงเหลืออยู่บ้าง ต่างจากน้ำ DI ที่ผ่านกระบวนการกำจัดไอออน ทำให้มีความบริสุทธิ์สูงสุด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสะอาดระดับสูง เช่น งานวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำ RO กับ น้ำ DI: ความบริสุทธิ์ที่ต่างกันเพื่อการใช้งานที่แตกต่าง

หลายคนอาจคุ้นเคยกับคำว่า “น้ำ RO” ซึ่งเป็นน้ำดื่มที่ผ่านกระบวนการกรองด้วยระบบ Reverse Osmosis (RO) หรือการกรองแบบออสโมซิสผันกลับ ส่วน “น้ำ DI” หรือ Deionized Water อาจจะเป็นคำที่ไม่คุ้นหูเท่าไหร่นัก ถึงแม้ทั้งสองชนิดจะเป็นน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง แต่ก็มีความแตกต่างกันในกระบวนการผลิตและระดับความบริสุทธิ์ ซึ่งส่งผลต่อการใช้งานที่เหมาะสม

เริ่มต้นที่ น้ำ RO กระบวนการ Reverse Osmosis ใช้แรงดันดันน้ำผ่านเยื่อกรองที่มีรูพรุนขนาดเล็กมาก เยื่อกรองนี้จะดักจับสิ่งปนเปื้อนต่างๆ เช่น แบคทีเรีย, ไวรัส, สารเคมี, โลหะหนัก และแร่ธาตุบางชนิด ส่งผลให้น้ำที่ผ่านการกรองมีความบริสุทธิ์สูงขึ้น เหมาะสำหรับการบริโภค อย่างไรก็ตาม น้ำ RO ยังคงมีแร่ธาตุและไอออนบางชนิดหลงเหลืออยู่ ถึงแม้ปริมาณจะน้อยมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของงานบางประเภทที่ต้องการความบริสุทธิ์สูงสุด

ส่วน น้ำ DI หรือน้ำปราศจากไอออน จะผ่านกระบวนการ Deionization ซึ่งเป็นการกำจัดไอออนออกจากน้ำ โดยทั่วไปจะทำหลังจากกระบวนการ Reverse Osmosis หรือการกลั่น เพื่อกำจัดไอออนที่ยังหลงเหลืออยู่ให้หมดจด กระบวนการ Deionization ใช้เรซินพิเศษในการแลกเปลี่ยนไอออนบวกและไอออนลบในน้ำกับไอออน H+ และ OH- ซึ่งจะรวมกันเป็นน้ำบริสุทธิ์ (H2O) ผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำ DI ที่ปราศจากแร่ธาตุและไอออนเกือบทั้งหมด มีความบริสุทธิ์สูงสุด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสะอาดระดับสูง เช่น การใช้งานในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์, อุตสาหกรรมยา, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการใช้งานในเครื่องมือแพทย์บางชนิด ที่แม้แต่ไอออนปริมาณน้อยนิดก็อาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์หรือประสิทธิภาพการทำงานได้

สรุปคือ น้ำ RO เป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการกรองที่มีความบริสุทธิ์สูง เหมาะสำหรับการบริโภค ขณะที่น้ำ DI เป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการกำจัดไอออน มีความบริสุทธิ์สูงสุด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสะอาดในระดับที่เข้มงวดกว่า การเลือกใช้น้ำ RO หรือน้ำ DI จึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความต้องการในการใช้งานเป็นหลัก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด.