ระบบหมุนเวียนเลือดมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

2 การดู

ระบบไหลเวียนโลหิตมีสองประเภทหลัก: แบบเปิดและแบบปิด ในระบบเปิด เลือดจะสัมผัสกับเนื้อเยื่อโดยตรง พบในแมลงและครัสเตเชียน ส่วนระบบปิด เลือดไหลเวียนเฉพาะในหลอดเลือดเท่านั้น พบในสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์บางชนิด เช่น หมึก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เจาะลึกระบบหมุนเวียนเลือด: เปิดโลกสู่ความแตกต่างระหว่างระบบเปิดและระบบปิด

ระบบหมุนเวียนเลือด คือหัวใจสำคัญของการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตหลายชนิด ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจน สารอาหาร ฮอร์โมน และของเสียไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย แต่คุณทราบหรือไม่ว่าระบบหมุนเวียนเลือดไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว? ความจริงแล้ว ระบบหมุนเวียนเลือดแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ ระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด (Open Circulatory System) และ ระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด (Closed Circulatory System) ซึ่งแต่ละประเภทก็มีลักษณะเฉพาะและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน

ระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด: สัมผัสโดยตรงกับเนื้อเยื่อ

ระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิดพบได้ในสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่ เช่น แมลง กุ้ง ปู หอย และแมงมุม ในระบบนี้ หัวใจจะสูบฉีดของเหลวที่เรียกว่า ฮีโมลิมฟ์ (Hemolymph) ผ่านหลอดเลือดไปยังช่องว่างภายในร่างกายที่เรียกว่า ฮีโมซีล (Hemocoel) ฮีโมลิมฟ์จะสัมผัสกับเซลล์และเนื้อเยื่อโดยตรง ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสารอาหารและของเสีย จากนั้นฮีโมลิมฟ์จะไหลกลับไปยังหัวใจเพื่อเริ่มต้นวงจรใหม่

ข้อดีของระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด:

  • ใช้พลังงานน้อย: ระบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้แรงดันเลือดสูง ทำให้ประหยัดพลังงาน
  • ง่ายต่อการควบคุมความดันในฮีโมซีล: สามารถปรับความดันเพื่อรองรับการเคลื่อนไหวและการลอกคราบ
  • เหมาะสำหรับสัตว์ขนาดเล็ก: ที่มีอัตราการเผาผลาญพลังงานต่ำ

ข้อเสียของระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด:

  • ประสิทธิภาพในการลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนต่ำ: เนื่องจากฮีโมลิมฟ์ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในหลอดเลือด ทำให้การลำเลียงไปยังเซลล์เป้าหมายไม่รวดเร็วและแม่นยำเท่าที่ควร
  • ไม่สามารถควบคุมการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเฉพาะ: การไหลเวียนของฮีโมลิมฟ์เป็นไปอย่างทั่วถึง ทำให้ไม่สามารถจัดสรรทรัพยากรไปยังอวัยวะที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด: เลือดไหลเวียนเฉพาะในหลอดเลือด

ระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิดพบได้ในสัตว์มีกระดูกสันหลังทุกชนิด รวมถึงสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังบางชนิด เช่น ไส้เดือนดินและหมึก ในระบบนี้ เลือดจะไหลเวียนอยู่ภายในหลอดเลือดตลอดเวลา ไม่มีการสัมผัสกับเนื้อเยื่อโดยตรง หัวใจจะสูบฉีดเลือดผ่านหลอดเลือดแดงไปยังหลอดเลือดฝอย ซึ่งเป็นหลอดเลือดขนาดเล็กที่แทรกอยู่ระหว่างเซลล์ เลือดจะแลกเปลี่ยนออกซิเจนและสารอาหารกับเซลล์ผ่านผนังหลอดเลือดฝอย จากนั้นเลือดจะไหลกลับไปยังหัวใจผ่านหลอดเลือดดำ

ข้อดีของระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด:

  • ประสิทธิภาพในการลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนสูง: เลือดถูกจำกัดอยู่ในหลอดเลือด ทำให้การลำเลียงไปยังเซลล์เป้าหมายรวดเร็วและแม่นยำ
  • สามารถควบคุมการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเฉพาะ: สามารถปรับขนาดของหลอดเลือดเพื่อจัดสรรทรัพยากรไปยังอวัยวะที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สามารถรักษาความดันเลือดให้คงที่: แรงดันเลือดที่คงที่ช่วยให้การทำงานของอวัยวะต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

ข้อเสียของระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด:

  • ใช้พลังงานสูง: ระบบนี้จำเป็นต้องใช้แรงดันเลือดสูง ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน
  • ซับซ้อนกว่า: ระบบนี้มีโครงสร้างที่ซับซ้อนกว่าระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด

สรุปความแตกต่าง

คุณสมบัติ ระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด ระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด
การไหลเวียนของเลือด เลือดไหลเวียนผ่านหลอดเลือดและฮีโมซีล เลือดไหลเวียนเฉพาะในหลอดเลือดเท่านั้น
การสัมผัสเนื้อเยื่อ เลือดสัมผัสกับเนื้อเยื่อโดยตรง เลือดไม่สัมผัสกับเนื้อเยื่อโดยตรง
ประสิทธิภาพ ต่ำ สูง
การใช้พลังงาน น้อย มาก
พบใน แมลง, ครัสเตเชียน, หอย, แมงมุม สัตว์มีกระดูกสันหลัง, ไส้เดือนดิน, หมึก

การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างระบบหมุนเวียนเลือดทั้งสองประเภทนี้ ช่วยให้เราเข้าใจถึงความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ และเห็นถึงวิวัฒนาการที่น่าทึ่งที่ทำให้สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดสามารถปรับตัวให้อยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้